เตรียมผุดโมเดลป้องกันปัญหาฝุ่นละออง นำร่องใช้ทั่วประเทศในพื้นที่มีปัญหา

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คณะกรรมการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากท่าเทียบเรือเจซี มารีน เซอร์วิส ผุดโมเดลป้องกันปัญหาฝุ่นละอองจากการขนถ่ายถ่านหิน ใช้ทั่วประเทศที่มีปัญหา

วันนี้ (10 ก.ย.) นายสนธิ คชวัฒน์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพของชาวบ้าน โดยรอบท่าเทียบเรือบริษัท เจซี มารีน เซอร์วิส จำกัด ครั้งที่ 3 พร้อมกับคณะกรรมการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และตัวแทนจากชุมชนบ้านอ่าวอุดม

นายสนธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้นำเสนอมาตรการป้องกันปัญหา 5 มาตรการ โดยให้คณะกรรมการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และตัวแทนจากชุมชนบ้านอ่าวอุดม เข้าทำการตรวจสอบขณะขนถ่ายถ่านหิน โดยมาตรการแรกเป็นการป้องกันการขนถ่ายถ่านหินจากเรือสู่รถบรรทุก ด้วยการตักถ่านหินด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้ตกหล่น หากมีลมพัดแรงเข้าหาชุมชน และบริษัทจะพรมน้ำลงพื้นเพื่อป้องกันการฟุ้งกระจาย หรือหยุดการขนถ่ายจนกว่าลมจะเบาลง

มาตรการที่ 2 ใช้ผ้าใบปิดคลุมเรือที่บรรทุกถ่านหินทุกครั้ง และจะเปิดผ้าใบก็ต่อเมื่อมีการขนถ่ายถ่านหินเท่านั้น มาตรการที่ 3 ปูรองพื้นด้วยพลาสติกสีดำอย่างหนา ระหว่างเรือกับท่าเทียบเรือเพื่อป้องกันการตกหล่นของถ่านหินลงสู่ทะเล

มาตรการที่ 4 ทำความสะอาดหน้าท่าเทียบเรือตลอดเวลา ขณะที่กำลังขนส่ง และหลังจากที่ทำการขนถ่ายเสร็จแล้ว และมาตรการที่ 5 ใช้ผ้าใบคลุมรถบรรทุกที่ขนถ่ายถ่านหินอย่างมิดชิด เพื่อป้องกันการตกหล่น และฟุ้งกระจายของฝุ่นถ่านหิน

รวมถึงแนวทางลดฝุ่นละออง โดยการสร้างแนวป้องกันฝุ่นที่จะลงสู่ทะเล ซึ่งได้ออกแบบการก่อสร้างหลังคาคลุมหน้าท่าเทียบเรือ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 เดือน โดยวันนี้ได้มีการนำเสนอโมเดลดังกล่าว ซึ่งทุกภาคส่วนได้ลงมิติเห็นชอบ โดยจะสร้างเป็นหลังคาคลุมท่าเทียบเรือเพื่อป้องกันฝุ่นละออง พร้อมทั้งพ่นสเปรย์น้ำตลอดเวลา หากอยู่ในช่วงทีมีลมแรง และทิศทางไปทางหมู่บ้านจะยุติการขนถ่านหินทันที และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรถที่ผ่านการชั่งน้ำหนักแล้วว่าต้องคลุมผ้าใบให้มิดชิด จึงปล่อยลงจากลานตาชั่ง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง บริษัทต้องขนถ่ายถ่านหินด้วยความระมัดระวัง ตามที่ได้ทำสัญญาไว้จนหมด แล้วจะเริ่มขนถ่ายถ่านหินอีกครั้ง ต่อเมื่อทำการก่อสร้างหลังคาเสร็จ และทุกครั้งมีการขนถ่ายถ่านหิน บริษัทจะส่งข่าวทาง SMS ให้คณะกรรมการติดตามตรวจสอบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และตัวแทนจากชุมชนบ้านอ่าวอุดมทราบทุกครั้ง ส่วนการใช้รถใช้ถนนในชุมชนที่ได้รับผลกระท และเสียหายจะขอให้เทศบาลนครแหลมฉบังตรวจสอบ

นายสนธิ กล่าวว่า ความร่วมมือกันของภาครัฐ เอกชน และชาวบ้านถือเป็นเรื่องที่ดี ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งจะนำโมเดลของบริษัทไปใช้กับพื้นที่อื่นทีมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งกำลังมีปัญหาการขนถ่ายถ่านหินเช่นกัน

หลังจากนี้ในพื้นที่อื่นที่มีปัญหา เช่น ท่าเรือสยาม ซีพอร์ท ไทยออยล์ เอสโซ่ ปตท. ซึ่งอยู่ในชุมชนอ่าวอุดม จะต้องมาคุยกันเพื่อร่วมร่วมกันแก้ปัญหา เพื่อให้โรงงานกับชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข