ปทส.ลุยตรวจท่าแร่กรุงเก่า หลังชาวบ้านร้องเดือดร้อนจากฝุ่นละออง

พระนครศรีอยุธยา - ปทส.นำกำลังลุยตรวจท่าแร่ ในเขตพื้นที่พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเดือดร้อนจากฝุ่นละอองในการขนถ่ายหินที่กองอยู่สองฝั่งถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ เป็นความยาว10 กิโลเมตร และการขนถ่ายหินที่กองอยู่ภายในท่าเรือ

วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองสะแก อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธนัญชัย เพียรช่าง ผกก.2 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บำรุงศักดิ์ รอง ผกก.2 บก.ปทส. พร้อมด้วยนายก อบต.คลองสะแก อบต.ปากจั่น อบต.แม่ลา อบต.บ่อโพง เทศบาลตำบลนครหลวง กรมควบคุมมลพิษ กรมเจ้าท่า ผู้ประกอบการท่าเรือขนส่งแร่ ถ่านหิน ปุ๋ย ปูนซีเมนต์ ตัวแทนประชาชน ได้ประชุมร่วมกันเพื่อหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการขนถ่ายสินค้าที่ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากมลพิษทางฝุ่นละออง การเดินรถ การเดินเรือ

หลังจากนั้น พ.ต.อ.ธนัญชัย เพียรช่าง ผกก.2 บก.ปทส. และคณะ ได้เดินทางไปตรวจบริเวณท่าเทียบเรือขนส่งในพื้นที่ที่มีการขนย้ายแร่จากเรือลงรถบรรทุกเพื่อตรวจสอบมาตรฐานการดำเนินการของผู้ประกอบการ

พ.ต.อ.ธนัญชัย กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ ต.คลองสะแก ต.แม่ลา ต.ปากจั่น และ ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยาว่าได้รับความเดือดร้อนจากฝุ่นละอองในการขนถ่ายหินที่กองอยู่สองฝั่งถนนสายนครหลวง-ท่าเรือ เป็นความยาว 10 กิโลเมตร และการขนถ่ายหินที่กองอยู่ภายในท่าเรือต่างๆ ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองฟุ้งกระจายไปทั่ว จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ทางผู้ประกอบการหลายรายได้ปฎิบัติตามกฎระเบียบ และมาตรการของทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันบรรเทาปัญหามลพิษพอสมควร แต่ก็มีบางมาตรการที่ทางผู้ประกอบการยังไม่ได้ดำเนินการ และปฏิบัติตามเพราะต้องใช้ต้นทุนในการทำสูง และยังมีผู้ประกอบการบางรายที่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

“จากการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับตัวแทนส่วนราชการ และตัวแทนชาวบ้านพบว่า ผู้ประกอบการได้มีการป้องกัน และบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองเป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่ง และทราบจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นว่า ไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการบางรายที่ไม่ยินยอมให้เข้าไปตรวจสอบในท่าเรือขนถ่ายแร่ และถ่านหิน

ดังนั้น ต่อไปการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ก็จะต้องทำให้มีความถี่มากขึ้น โดยทาง ปทส.จะเข้าตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นการสุ่มตรวจไม่แจ้งล่วงหน้า เพราะผู้ประกอบการจะมีการเตรียมตัวก่อนล่วงหน้า หากพบกระทำความผิดจะดำเนินการตามความผิดทางกฎหมายทันที”