ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เข้าตรวจหาหลักฐานหลังสลายม็อบประจวบฯ พบรถยนต์ถูกเผา และถูกทุบกระจกคัน ผบช.ภ.7 กร้าวม็อบยางบางสะพานจะปิดถนนอีกไม่ได้ จ่อออกหมายจับวัยรุ่นเผารถนักข่าว ทำร้ายตำรวจวันนี้ยกก๊วน ขณะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรุดตรวจสอบ
วันนี้ (6 ก.ย.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้การบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ หลังสลายการชุมนุมกลุ่มผู้ประท้วงราคายางพารา ที่ถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 413 หน้าหน่วยบริการประชาชนบ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนดูแลทีมพิสูจน์หลักฐานที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีรถยนต์ถูกเผาทำลาย และถูกทุบกระจกได้รับความเสียหายหลายคัน ในจำนวนนี้มีรถนักข่าวร่วมอยู่ด้วย ขณะที่บนถนนสายเพชรเกษม ยังไม่สามารถเปิดให้ใช้งานได้ ทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ เจ้าหน้าที่ได้ระบายรถให้ไปใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าตัวอำเภอบางสะพานเลียบชายทะเลเชื่อมอำเภอบางสะพานน้อย
สำหรับเหตุการณ์ปะทะกันในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 28 ราย ในจำนวนนี้ สาหัส 2 ราย ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 30 ราย
ด้าน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า หลังจากประชุมประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของม็อบยางพาราที่แยกธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อคืนวานนี้นั้น ล่าสุด ทางตำรวจรู้กลุ่มคนก่อเหตุเผารถผู้สื่อข่าว และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดแล้ว โดยกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งจำนวนยังไม่ชัดว่ากี่คน เพราะมีหลายคน
ส่วนแกนนำจำนวน 10 ราย ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้นั้น ได้แจ้งข้อหาปิดเส้นทางสาธารณะ ขัดขวางทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว โดยตามสิทธิสามารถที่จะปฏิเสธ หรือขอประกันตัวออกไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.จะเดินทางมาเยี่ยมนายตำรวจที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับลงพื้นที่ที่แยกธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน เพื่อฟังบรรยายสรุปเหตุการณ์ด้วย
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวก่อนเดินทางไปติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางพารา ตรวจเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ได้รับรายงานล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกเลิกการชุมนุมบริเวณ ถ.เพชรเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้ว โดยยุติในกลางดึกที่ผ่านมา
ซึ่งผลจากการปะทะกันส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 23 นาย อาการสาหัส ต้องผ่ากะโหลกศีรษะ 1 นาย โดยตำรวจควบคุมตัวผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายได้ 12 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ และมีการปลุกระดมมวลชนผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่พอจะทราบแล้วว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งจะขอรวบรวมหลักฐานก่อน และยังต้องตรวจสอบว่าจำนวนนี้เป็นเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจริงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้เหล็กแหลม ไม้ ก้อนหิน และน้ำกรด ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่าตอนเผชิญหน้าตำรวจไม่ใช้กำลัง ใช้เพียงโล่ และกระบอง และตั้งรูปแถวป้องกันรับเท่านั้น ยืนยันว่าตำรวจพยายามเจรจา รักษากฎหมายเพื่อขอให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทาง
โดยผู้ชุมนุมกลุ่มดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ฐานปิดถนน มีโทษจำคุก 5 ปี และบางส่วนผิดมาตรา 230 ปิดทางรถไฟ โทษสูงสุดจำคุกถึง 7 ปี และจากนี้สั่งการให้ออกหมายเรียกดำเนินคดีแกนนำผู้ก่อเหตุชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายในแต่ละจุดแล้ว
นายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุ จส.100 หลังการสลายตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ที่บ้านธรรมรัชต์ อ.บางสะพาน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ก.ย.ได้มีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 20 คน ก่อเหตุใช้ระเบิดขวดปาใส่รถนักข่าวได้รับความเสียหาย 2 คัน และยังมีรถตำรวจ และรถนักข่าวไทยพีบีเอสถูกทุบตีจนเสียหายด้วย หลังลงมือเสร็จได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสกัดจับอยู่ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
“กลุ่มดังกล่าวไม่น่าจะใช่ผู้ชุมนุมที่เป็นชาวบ้าน แต่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาก่อกวน มีการปาระเบิดปิงปอง และประทัดยักษ์ และคาดว่าอาจจะมีการดื่มสุรา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังต้องเร่งเก็บกู้ตะปูเรือใบตามถนนด้วย” นายวีระกล่าว
เวลาต่อมา พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พอจะทราบแล้วว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นใคร มีทั้งคนในพื้นที่ และนอกพื้นที่เข้ามาก่อเหตุ ส่วนแกนนำที่ถูกจับกุมตัว 10 คน กำลังอยู่ระหว่างการสอบปากคำตามขั้นตอน
ส่วนอาการที่ถูกน้ำกรด และระเบิดขวดของม็อบยางที่บางสะพานปาเข้าใส่เป็นปกติแล้ว มีแผลที่ขา และปากเล็กน้อย สรุปสถานการณ์ล่าสุดจากการปะทะกันวานนี้ มีตำรวจบาดเจ็บ 25 นาย ต้องนอนพักรักษาตัวที่ร พ. 10 นาย ส่วนม็อบมีเป็นลม 1 ราย
ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เข้าตรวจหาหลักฐานหลังสลายม็อบประจวบฯ พบรถยนต์ถูกเผา และถูกทุบกระจกคัน ผบช.ภ.7 กร้าวม็อบยางบางสะพานจะปิดถนนอีกไม่ได้ จ่อออกหมายจับวัยรุ่นเผารถนักข่าว ทำร้ายตำรวจวันนี้ยกก๊วน ขณะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรุดตรวจสอบ
วันนี้ (6 ก.ย.) พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้การบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ หลังสลายการชุมนุมกลุ่มผู้ประท้วงราคายางพารา ที่ถนนเพชรเกษม กิโลเมตรที่ 413 หน้าหน่วยบริการประชาชนบ้านธรรมรัตน์ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนดูแลทีมพิสูจน์หลักฐานที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า มีรถยนต์ถูกเผาทำลาย และถูกทุบกระจกได้รับความเสียหายหลายคัน ในจำนวนนี้มีรถนักข่าวร่วมอยู่ด้วย ขณะที่บนถนนสายเพชรเกษม ยังไม่สามารถเปิดให้ใช้งานได้ ทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ เจ้าหน้าที่ได้ระบายรถให้ไปใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าตัวอำเภอบางสะพานเลียบชายทะเลเชื่อมอำเภอบางสะพานน้อย
สำหรับเหตุการณ์ปะทะกันในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 28 ราย ในจำนวนนี้ สาหัส 2 ราย ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 30 ราย
ด้าน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า หลังจากประชุมประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของม็อบยางพาราที่แยกธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อคืนวานนี้นั้น ล่าสุด ทางตำรวจรู้กลุ่มคนก่อเหตุเผารถผู้สื่อข่าว และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดแล้ว โดยกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด ซึ่งจำนวนยังไม่ชัดว่ากี่คน เพราะมีหลายคน
ส่วนแกนนำจำนวน 10 ราย ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้นั้น ได้แจ้งข้อหาปิดเส้นทางสาธารณะ ขัดขวางทำร้ายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว โดยตามสิทธิสามารถที่จะปฏิเสธ หรือขอประกันตัวออกไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.จะเดินทางมาเยี่ยมนายตำรวจที่บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกับลงพื้นที่ที่แยกธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน เพื่อฟังบรรยายสรุปเหตุการณ์ด้วย
พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวก่อนเดินทางไปติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางพารา ตรวจเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า ได้รับรายงานล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกเลิกการชุมนุมบริเวณ ถ.เพชรเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แล้ว โดยยุติในกลางดึกที่ผ่านมา
ซึ่งผลจากการปะทะกันส่งผลให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 23 นาย อาการสาหัส ต้องผ่ากะโหลกศีรษะ 1 นาย โดยตำรวจควบคุมตัวผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายได้ 12 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ และมีการปลุกระดมมวลชนผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่พอจะทราบแล้วว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งจะขอรวบรวมหลักฐานก่อน และยังต้องตรวจสอบว่าจำนวนนี้เป็นเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจริงหรือไม่
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้เหล็กแหลม ไม้ ก้อนหิน และน้ำกรด ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ ซึ่งยืนยันว่าตอนเผชิญหน้าตำรวจไม่ใช้กำลัง ใช้เพียงโล่ และกระบอง และตั้งรูปแถวป้องกันรับเท่านั้น ยืนยันว่าตำรวจพยายามเจรจา รักษากฎหมายเพื่อขอให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทาง
โดยผู้ชุมนุมกลุ่มดังกล่าวจะต้องถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ฐานปิดถนน มีโทษจำคุก 5 ปี และบางส่วนผิดมาตรา 230 ปิดทางรถไฟ โทษสูงสุดจำคุกถึง 7 ปี และจากนี้สั่งการให้ออกหมายเรียกดำเนินคดีแกนนำผู้ก่อเหตุชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายในแต่ละจุดแล้ว
นายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุ จส.100 หลังการสลายตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ที่บ้านธรรมรัชต์ อ.บางสะพาน เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 ก.ย.ได้มีกลุ่มวัยรุ่น จำนวน 20 คน ก่อเหตุใช้ระเบิดขวดปาใส่รถนักข่าวได้รับความเสียหาย 2 คัน และยังมีรถตำรวจ และรถนักข่าวไทยพีบีเอสถูกทุบตีจนเสียหายด้วย หลังลงมือเสร็จได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสกัดจับอยู่ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
“กลุ่มดังกล่าวไม่น่าจะใช่ผู้ชุมนุมที่เป็นชาวบ้าน แต่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาก่อกวน มีการปาระเบิดปิงปอง และประทัดยักษ์ และคาดว่าอาจจะมีการดื่มสุรา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังต้องเร่งเก็บกู้ตะปูเรือใบตามถนนด้วย” นายวีระกล่าว
เวลาต่อมา พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า พอจะทราบแล้วว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นใคร มีทั้งคนในพื้นที่ และนอกพื้นที่เข้ามาก่อเหตุ ส่วนแกนนำที่ถูกจับกุมตัว 10 คน กำลังอยู่ระหว่างการสอบปากคำตามขั้นตอน
ส่วนอาการที่ถูกน้ำกรด และระเบิดขวดของม็อบยางที่บางสะพานปาเข้าใส่เป็นปกติแล้ว มีแผลที่ขา และปากเล็กน้อย สรุปสถานการณ์ล่าสุดจากการปะทะกันวานนี้ มีตำรวจบาดเจ็บ 25 นาย ต้องนอนพักรักษาตัวที่ร พ. 10 นาย ส่วนม็อบมีเป็นลม 1 ราย
