“ผบ.ตร.” รุดตรวจสอบจุดเกิดเหตุตำรวจปะทะม็อบสวนยาง ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เผยจับกุมแกนนำก่อเหตุ 12 ดำเนินคดีข้อหาหนัก ชี้โทษปิดถนนคุก 5 ปี ปิดทางรถไฟคุก 7 ปี ชี้มีการปลุกปั่นยั่วยุให้สถานการณ์รุนแรง!
วันนี้ (6 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวก่อนเดินทางไปติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยาง และตรวจเยี่ยมตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่าได้รับรายงานล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยกเลิกการชุมนุมบริเวณถนนเพชรเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์แล้ว โดยยุติในกลางดึกที่ผ่านมา พบว่าจากผลักดันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจทำให้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 23 นาย อาการสาหัสต้องผ่ากะโหลกศีรษะ 1 นาย โดยตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ชุมนุมที่ทำผิดกฎหมายได้ 12 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ ยังต้องตรวจสอบว่าในจำนวนนี้เป็นเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พบกลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้เหล็กแหลม ไม้ ก้อนหิน และน้ำกรด ขว้างปาใสเจ้าหน้าที่ซึ่งยืนยันว่าตอนเผชิญหน้าตำรวจไม่ใช้กำลัง ใช้เพียงโล่และกระบอง และตั้งรูปแถวป้องกันรับเท่านั้น ยืนยันว่าตำรวจพยายามเจรจา รักษากฎหมายเพื่อขอให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทาง โดยกลุ่มนี้ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ฐานปิดถนน มีโทษจำคุก 5 ปี และบางส่วนผิดมาตรา 230 ปิดทางรถไฟ โทษสูงสุดจำคุกถึง 7 ปี และจากนี้สั่งการให้ออกหมายเรียกดำเนินคดีแกนนำผู้ก่อเหตุชุมนุที่ทำผิดกฎหมายในทุกจุดแล้ว
ผบ.ตร.กล่าวว่า ก่อนมีการปะทะกันในช่วงเย็นต่อเนื่องจนดึก ช่วงเช้าพบมีคนพยายามยั่วยุ มีการโพสต์ข้อความปลุกระดมในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ข้อความเชิงยั่วยุ บอกนัดให้มาชุมนุม ปิดถนน ให้ตระเตรียมคน ใช้กรดยาง ขณะนี้ตำรวจพอจะทราบแล้วว่าเป็นใคร กลุ่มใด แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียด ขอรวบรวมหลักฐานก่อน ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณาข้อมูลข่าวสารและอย่าตกเป็นเครื่องมือของคนที่ต้องการยั่วยุปลุกระดม ให้เกิดความรุนแรงเพราะหากมาทำการปิดถนน ใช้กำลังรุนแรงผิดกฎหมายตำรวจต้องดำเนินคดี โดยยืนยันตำรวจเน้นการเจรจา ไม่ใช้กำลังและยึดการบังคับใช้กฎหมาย
