โฆษกตำรวจแถลงสรุปรายงานสถานการณ์ม็อบสวนยางที่กำลังวุ่นวายบานปลายอยู่ในขณะนี้ ชี้ม็อบปิดตายถนน 2 จุด ในเมืองนครฯ เตรียมนำเครื่องบินนำตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 13 นายที่รักษาอยู่ รพ.หัวหิน ขึ้นมาารักษาตัวต่อที่ รพ.ตำรวจ มี 2 รายบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ถูกฟันหัวแบะ-น้ำกรดราด เผยรวบ 12 แกนนำจ่อฝากขังศาล ชี้โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 หมื่นบาท จ่อออกหมายจับ “ผู้กองปูเค็ม” โผล่ร่วมชุมนุม พร้อมยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม ยังคงใช้นโยบายยึดหลักการเจรจา
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (6 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมม็อบสวนยางว่า ขณะนี้มีการปิดถนนอยู่ 4 จุดด้วยกัน โดยปิดตาย 2 จุด คือ 1. แยกควนหนองหงส์ จ.นครศรีธรรมราช มวลชน 400 คน ปิดการจราจรทั้งหมด 2. แยกหนองดี จ.นครศรีธรรมราช มวลชนประมาณ 150 คน ยังปิดการจราจร แต่ขณะนี้มีฝนตกหนัก 3. แยกอันดามัน จ.ตรัง มวลชนประมาณ 70 คน ปิดการจราจรครึ่งหนึ่ง ยังสัญจรได้ 4. เขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี มวลชนประมาณ 300 คน ปิดการจราจร ครึ่งหนึ่งยังสัญจรได้ ซึ่งตอนนี้ 3 จุดที่ จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง รอฟังผลการเจรจราของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีที่กำลังเจรจากันอยูที่โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่บ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 24 นาย เผารถผู้สื่อข่าว 3 คันนั้น ขณะนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้นำเครื่องบินคาซ่าไปรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ 13 นายที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.หัวหิน มารักษาที่ รพ.ตำรวจ ส่วนอีก 2 นายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยเฉพาะ ด.ต.สุชาติ จ่ามา สังกัด ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ บาดเจ็บสาหัสถูกฟันที่ศีรษะ และถูกน้ำกรดสาด
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ปะทะเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 12 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 4 คน 1. นายมานพ ชินโสดชาว อ.บางสะพาน 2. นายพัฒนพงษ์ ชายชาติชาว อ.บางสะพานน้อย 3. นายจำลอง ดีทองอ่อนชาว อ.บางสะพาน 4. นายสมชาย บุญภูษิตชาว อ.บางสะพาน 5. นายวุฒิกร รักษาเคนชาวจังหวัดมุกดาหาร
6. นายศักรินทร์ ไชยแก้วชาว อ.บางสะพาน 7. นายสิทธิชัย ทิพย์จันทร์ชาว อ.บางสะพานน้อย 8. นายเกรียงศักดิ์ แสงทองชาว อ.บางสะพานน้อย 9. น.ส.พัฒนรัฐ พุ่มไชยชาว อ.บางสะพาน 10. นางประไพ อยู่ขวัญชาว อ.ปะทิว จ.ชุมพร 11. น.ส.หทัยรัตน์ แสงมณีชาว อ.บางสะพานน้อย 12. น.ส.สมพร จันทร์ทองชาว อ.บางสะพาน ในข้อหาปิดเส้นทางหลวง ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานการเผายางรถยนต์ ยืงหนังสติ๊ก สาดน้ำกรด เอาขวานฟัน ทั้งหมดเจ้าหน้าที่มีอำนาจควบคุมตัวได 48 ชั่วโมง จากนั้นจะนำตัวฝากขังศาล หลักจากนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานหากพบเข้าข่ายความผิดอื่นก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนได้นำภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและจากสื่อมวลชนทุกแขนง มาดู พบว่าความเชื่อมโยงระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมที่ กทม.กับที่ภาคใต้ โดยเฉพาะ ร.อ.ทรงกรด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม มีภาพอยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบนวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ ส่วนเจ้าขิงรถที่ถูกเผาทำลายก็ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนแล้ว
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มีการใช้แก๊สน้ำตาแน่นอน ตำรวจไม่มีแก๊สน้ำตาหรืออาวุธ ภาพที่ปรากฏทางสื่อออนไลน์น่าจะเป็นภาพอย่างอื่น ตอนนี้ให้ทางฝ่ายเทคโนโลยีตรวจสอบที่มาที่ไปของภาพดังกล่าวแล้ว สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ตำรวจได้ประเมิน 2 แนวทาง แนวทางแรกการเจรจาสำเร็จ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร แนวทางที่ 2 ถ้าการเจรจาไม่สำเร็จ ตำรวจก็พร้อมปฏิบัติตามแผนเดิม ผบ.ตร.ได้สั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ ยืนยันตามนโยบายเน้นการเจรจา ดูแลความปลอดภัย ไม่มีอาวุธ หลักเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุม” โฆษก ตร.ระบุ