ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- รถบรรทุกพ่วงชนประสานงากันบนถนน 304 ช่วงทางลงเขา อ.วังน้ำเขียว โคราช พังยับ ตาย 1 สาหัส 1 ราย เผยเป็นช่วงซ่อมถนนต้องเลี่ยงมาใช้ช่องจราจรเดียววิ่งสวนกัน รถพ่วงบรรทุกเหล็กซิ่งลงเขาแหกโค้งพุ่งชนรถบรรทุกแป้งมันฯ อย่างจัง
วันนี้ (5 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.จิระวัฒน์ ประยูรพันธ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อชนประสานงากัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 76 ถนนทางหลวงหมายเลข 304 สายปักธงชัย-วังน้ำเขียว ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยมูลนิธิพุทธธรรมการกุศล (ฮุก 31) นครราชสีมา ประจำจุดตำบลอุดมทรัพย์ และพื้นที่ใกล้เคียงรุดไปให้ความช่วยเหลือ
ในที่เกิดเหตุบริเวณทางโค้งลงเขา และอยู่ระหว่างการปิดซ่อมแซมผิวการจราจรด้านขาเข้านครราชสีมา ทำให้รถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมาต้องเลี่ยงมาใช้ช่องจราจรเดียววิ่งสวนทางกัน พบรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 70-3312 ระยอง หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 70-3302 ระยอง ของบริษัท เอเชีย สตีล ทรานสปอร์ต (1999) จำกัด สภาพพลิกคว่ำอยู่กลางถนน โดยมีเหล็กแผ่นม้วนพับ น้ำหนักม้วนละ 14 ตัน จำนวน 2 ม้วน ตกอยู่บนพื้นผิวการจราจร
ห่างไปเล็กน้อยพบรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 82-2671 บุรีรัมย์ หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 82-2672 บุรีรัมย์ บรรทุกแป้งมันสำปะหลังมาเต็มคันรถ สภาพด้านหน้ารถถูกชนอย่างแรงจนพังยับเยิน ภายในรถบริเวณคนขับพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 45-50 ปี ถูกอัดก๊อบปี้ติดอยู่กับซากรถ เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้อุปกรณ์ตัดถ่างงัดช่วยเหลือออกมา โดยใช้เวลานานกว่า 30 นาทีก่อนรีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว และใกล้กับรถบรรทุกยังพบศพหญิงไทย ไม่ทราบชื่อ-สกุล โดยกระเด็นออกมาจากตัวรถ นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงได้นำส่งโรงพยาบาลวังน้ำเขียว
จากการสอบถาม นายทองศรี ลีตะนา อายุ 46 ปี ชาว จ.ระยอง กล่าวว่า ตนได้ขับรถบรรทุกพ่วงสิบแปดล้อบรรทุกเหล็กม้วนจำนวน 2 ม้วน รวมน้ำหนักเกือบ 30 ตัน มาจาก จ.ระยอง เพื่อมาส่งให้ลูกค้าในเขต ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงลงเขา และมีการซ่อมแซมถนนเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรหนึ่งช่องทาง ทำให้รถต้องวิ่งสวนเลนกัน
ตนพยายามชะลอความเร็ว แต่เนื่องจากรถที่บรรทุกมาหนัก ทำให้วิ่งลงเขามาด้วยความเร็ว จนกระทั่งมาถึงช่วงทางโค้งที่เกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักแหกโค้ง เป็นจังหวะเดียวกับที่รถบรรทุกพ่วงอีกคันวิ่งสวนทางมา จึงพุ่งชนประสานงากันอย่างรุนแรง จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายต่อไป
