xs
xsm
sm
md
lg

จับอีกเพียบ! ม้งขนยาบ้าจากเชียงรายล่องกรุง/ใช้สารพัดวิธีทั้งยัดรถ-พัดลม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ผู้ว่าฯ เชียงรายนำทีมตำรวจภูธรจังหวัดฯ ตั้งโต๊ะโชว์ผลงานจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ ได้ทั้งของกลาง-ผู้ต้องหาเพียบ พบผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้ง ใช้สารพัดวิธีทั้งยัดในรถยนต์-กล่องพัดลมส่งผ่านบริษัทขนส่ง

วันนี้ (2 ก.ย.) ที่นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย, พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตร์การ รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดที่ลานภักดีภูมิ ภ.เชียงราย โดยรายแรกมีผู้ต้องหาชื่อนายภาสกร วรโชติพนาไพร อายุ 42 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง บ้านเลขที่ 72 ม.7 ต.สันสลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 100 มัด รวมยาบ้าทั้งสิ้น 200,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเขียว ทะเบียน บจ 1121 พะเยา

การจับกุมผู้ต้องหารายนี้มีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนยาบ้าจำนวนมากผ่านเส้นทางเชียงราย-เชียงใหม่ กระทั่งพบรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวขับไปจอดที่ปากทางขึ้นดอยตุงสายเก่า บ้านห้วยไคร้ ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย และมีชาวเขาหลายคนเข้าไปพบปะพูดคุยด้วยอย่างน่าสงสัย ก่อนที่จะพากันไปที่บ้านซาเจ๊ะ ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย

ขณะที่รถคันดังกล่าวก็ขับออกจากหมู่บ้านมุ่งหน้าไปตามถนนพหลโยธินแวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ อ.แม่จัน แต่พอถึงค่ำวันเดียวกันคนขับรถกลับไม่ได้นอนพัก แต่กลับเดินทางมุ่งหน้าไปทาง อ.เวียงป่าเป้าต่อไปอย่างน่าสงสัย
 
เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานด่านตรวจตู้ยามท่าก๊อ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเขตติดต่อแม่สรวย-เวียงป่าเป้า ให้สกัดจับ เมื่อนายภาสกรไปถึงได้ให้สัญญาณหยุดตรวจและทำการตรวจรถพบซุกซ่อนยาบ้าทั้งหมด 200,000 เม็ดเอาไว้ที่ขอบแอร์โรว์ไลเนอร์ของรถ โดยวางยาบ้าที่บรรจุในห่อสี่เหลี่ยมผืนผ้าตั้งไว้ตามขอบดังกล่าว

อีกราย พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว ผกก.สภ.เมืองเชียงราย, พ.ต.ท.สมคิด หมั่นงาน รอง ผกก.สส. สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาบ้าผ่านทางพัสดุขนส่งของบริษัทนิ่มซี่เส็ง จำกัด สาขา ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย จึงไปทำการตรวจสอบพัสดุเป็นกล่องพัดลม ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่าเหตุใดจึงส่งพัดลมจากภาคเหนือกลับไปยังกรุงเทพฯ และผู้รับ-ผู้ส่งก็เป็นชาวเขาเผ่าม้งเหมือนกัน จึงเปิดออกดูก็พบมียาบ้าซุกซ่อนตามจุดต่างๆ ของกล่อง และในพัดลม รวมจำนวนทั้งสิ้น 99,800 เม็ด

ตรวจสอบพบผู้ส่งชื่อนายอนุสรณ์ แซ่หือ อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง อยู่บ้านเลขที่ 204 ม.5 ต.ท่าข้าม อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และจะส่งให้นายวิชาญ แซ่ฟ้า ชาวเขาเผ่าม้ง ชาว อ.เวียงแก่น ซึ่งจะรอรับอยู่ที่ตลาดไท จ.ปทุมธานี

สอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้นายอนุสรณ์ได้ขับรถยนต์นำกล่องพัดลมซุกซ่อนยาบ้าดังกล่าวไปส่งที่บริษัทด้วยตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงขอศาลออกหมายจับนายอนุสรณ์เพื่อนำมาดำเนินคดีและขยายผลต่อไป

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้แถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายย่อยที่ สภ.พาน มีผู้ต้องหาชื่อนายเมธี ศรีสมโภชน์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 แขวงบางด้วน เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้า 50 เม็ด ยาไอซ์ 3 หลอด น้ำหนักรวม 1.2 กรัม โดยจับกุมพร้อมของกลางได้ที่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.เจริญเมือง อ.พาน

และรายสุดท้ายที่ สภ.แม่สาย ผู้ต้องหาเป็นหญิงชื่อ น.ส.กนกพร แดงป้อม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152/1 ม.8 ต.ไทยชนะศึก อ.ทุ่มเสลี่ยม จ.สุโขทัย และ น.ส.เสาวณี ชื่อมี อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.7 ต.ประทัคบุ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ที่ถูกจับกุมขณะขับรถยนต์เก๋งจากชายแดนผ่านถนนพหลโยธิน ม.5 ต.โป่งผา อ.แม่สาย พร้อมยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในอวัยวะเพศจำนวน 3 ก้อน รวม 6 ก้อน น้ำหนักรวมกันประมาณ 245.28 กรัม

พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า สถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดนด้าน จ.เชียงรายตอนนี้น่าเป็นห่วง เพราะขบวนการนอกกฎหมายยังคงพยายามลักลอบขนเข้าตลอดแนวชายแดนต่อเนื่อง ตั้งแต่ชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง แม่จัน แม่สาย เชียงแสน เชียงของ เวียงแก่น และ อ.เทิง

“เฉพาะกรณีที่ตรวจยึดได้ในรายที่ อ.แม่สรวย ในครั้งนี้การข่าวระบุว่าจะมีการนำเข้ามากว่า 1 ล้านเม็ด แต่ตรวจยึดได้เพียง 200,000 เม็ด จึงต้องขยายผลเพื่อติดตามในหลายพื้นที่กันต่อไป”

ส่วนสถานการณ์การผลิตในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านก็มีมากขึ้น โดยล่าสุดการข่าวระบุว่ามีการสร้างเครื่องตอกเม็ดยาบ้าเพิ่มขึ้นอีก 4 เครื่อง และพร้อมผลิตเพื่อนำเข้าสู่ประเทศไทย

พล.ต.ต.วันชัยกล่าวอีกว่า ช่วงหลังพบผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นชาวเขา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้บ่งชี้ว่าชาวเขาเป็นผู้กระทำความผิดทั้งหมด แต่เมื่อผู้ถูกจับกุมในช่วงหลังเป็นเช่นนี้ ทางจังหวัดจึงได้จัดทำโครงการให้ผู้นำชาวเขาทุกฝ่ายใน จ.เชียงราย ได้ร่วมทำพิธีไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ณ ศาลากลาง จ.เชียงราย โดยจะมีผู้บริหารจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งเป็นมาตรการเชิงรุกที่จะสกัดกั้นยาเสพติดให้ได้มากที่สุดต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น