xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจเชียงรายขู่ลงดาบบริษัทขนส่งเมินแจ้งพิรุธ ปล่อยยาเสพติดทะลัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ตำรวจเรียกประชุมผู้ประกอบการขนส่ง กำชับร่วมตรวจสอบลักลอบขนยาเสพติด หลังสถิติพุ่งพรวด จี้บริษัทขนส่งสังเกตชื่อ-สกุล-สินค้าแปลก พบพิรุธให้แจ้งทันที ขู่เพิกเฉยเจอลงดาบเรียกสอบแน่

วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.อ.ยงยุทธ เหล่าเขตการณ์ รองผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ประชุมผู้ประกอบการขนส่งและโดยสาร เพื่อขอความร่วมมือป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยมีผู้ประกอบการการเข้าร่วมหลายราย เช่น นิ่มซี่เส็ง สมบัติทัวร์ สยามเฟิร์สทัวร์ บขส. ไปรษณีย์ เป็นต้น

พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า การลักลอบนำเข้ายาเสพติดยังคงเป็นปัญหาใหญ่ และกิจการขนส่งก็กำลังตกเป็นเครื่องมือขบวนการค้ายาเสพติดที่ใช้กิจการขนส่งในการนำเข้า โดยจากการตรวจยึดของกลางได้ทั้งใน จ.เชียงราย และกรุงเทพมหานคร หลายครั้งพบว่ามีพิรุธที่ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะการที่ชาวเขา หรือนามสกุลแปลก ขนสินค้าแปลก ลักษณะปกปิด หรือพิรุธอื่นๆ เช่น เมื่อเร็วๆ นี้มีผู้ถูกจับกุมที่ภาคกลาง หลังขนยาเสพติดผ่านทางกิจการขนส่งสินค้าถึง 21 ครั้ง โดยใช้ชื่อคนรับ-ส่งคนเดียวกัน และสินค้าก็มีพิรุธ แต่ก็ถูกปล่อยผ่านจาก จ.เชียงราย เป็นต้น

พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า รอบ 2-3 วันที่ผ่านมามียาบ้าทะลักจากชายแดนด้าน จ.เชียงราย ถูกตรวจยึดได้มากกว่า 2 ล้านเม็ด และจากสถิติเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเดือนเดียว ตรวจยึดได้กว่า 1.49 ล้านเม็ด เฮโรอีน ยาไอซ์ และอื่นๆ อีกจำนวนมาก ผู้ต้องหากว่า 700 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 25% ส่วนปีงบประมาณ 2556 จนถึงเดือนกรกฎาคม ยึดยาบ้าได้ 13,572,726.5 เม็ด เฮโรอีน 64,772.92 กรัม ยาไอซ์ 149,061.95 กรัม ผู้ต้องหา 6,560 คน เพิ่มขึ้น 15% หรือมากกว่าปีก่อนเกือบ 1,000 คน ทั้งที่ยังไม่หมดปีงบประมาณ

“ทุกวันนี้ตำรวจและทหารตั้งจุดตรวจกันไม่ได้หยุด เมื่อมีการปิดล้อมตรวจค้นตรวจร่างกายก็เจอคนเสพเมื่อนั้น”

พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้ภาคเอกชนช่วยกันบ้าง เพราะที่ผ่านมามีความร่มมือน้อยเกินไป ทั้งที่หลายพื้นที่ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ผู้ประกอบการขนส่งจะแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อพบสิ่งผิดปกติเสมอ โดยตำรวจจะปกปิดข้อมูลไว้เป็นความลับ แต่หากยังเฉยเมยกันเช่นนี้ ก็คงจะต้องนำ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2554 มาใช้สืบสวนสอบสวน ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับภาคขนส่งด้วย นอกจากนี้ ขณะนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้เสนอร่างกฎหมายเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา คาดว่าจะประกาศใช้เร็วๆ นี้ ซึ่งจะกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่ง แจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้เจ้าหน้าที่ทุกครั้ง

จากนั้นที่ประชุมได้ให้ตัวแทนกองกำลังผาเมือง อธิบายสถานการณ์ยาเสพติดเพื่อให้ผู้ประกอบการได้ตระหนักว่าปัจจุบันแหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ตรงข้าม จ.เชียงราย และกำลังทหารได้รับมอบหมายให้ดูแลป้องกันยาเสพติด โดยกว่า 95% ของแหล่งผลิตขนาดใหญ่อยู่ใน 4 พื้นที่ใหญ่ รวมกันแล้วกว่า 11 แห่ง โดยเฉพาะแหล่งใหญ่ คือ บ้านขุนน้ำรวก เมืองโก ห่างจากชายแดนอ.แม่สาย ไปทางทิศเหนือประมาณ 35 กิโลเมตร ปัจจุบันเริ่มปลูกฝิ่นเป็นบริเวณกว้าง และผลิตยาไอซ์ด้วย แหล่งบ้านปู่นาโก่ ใกล้เมืองตูม ห่างจากชายแดนด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง ประมาณ 30 กิโลเมตร ผลิตกันในครัวเรือนคล้ายวิสาหกิจชุมชน

โดยยาเสพติดเหล่านี้จะถูกลำเลียงมาพักตามหมู่บ้านตะเข็บชายแดนฝั่งประเทศเพื่อนบ้านทั้ง 2 ประเทศ รวม 12 แห่ง ตลอดแนว 400 กิโลเมตร พร้อมนำเข่้าสู่ประเทศไทยเมื่อมีโอกาสตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้ทหารต้องวางกำลังตามฐานและลาดตระเวนตลอดแนวเช่นกัน สำหรับรูปแบบการนำเข้าจะมีการจัดกำลังและติดอาวุธคราวละ 10-20 คน แต่ละคนขนยาบ้าเข้ามาได้คนละ 100,000 เม็ด หรือ 10 กิโลกรัม หรือแอบเข้ามาตามด่านปกติ ด้วยการซุกซ่อนในรูปแบบต่างๆ ล่าสุดพบห่อกระดาษคาร์บอน ซึ่งเครื่องเอกซเรย์ที่ชายแดนตรวจไม่พบ แต่มาถูกตรวจพบเมื่อเข้าสู่ด่านชั้นใน นอกจากนี้ยังลักลอบผ่านป่าเขา ลำน้ำสาย ลำน้ำรวก แม่น้ำโขง ตั้งแต่ อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.เวียงแก่น อ.เทิง

ด้าน พ.ต.อ.วิรัตน์ สุมนาพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ทางกรุงเทพฯตรวจยึดยาบ้าได้ 1.2 ล้านเม็ด โดยใช้ระบบขนส่งจากภาคเหนือลงไป มีผู้รับและผู้ส่งเป็นคนเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่ตำรวจต้องการให้สังเกต คือ ชื่อและนามสกุลแปลกๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเขาที่ได้นามสกุลใหม่ แต่ปรากฏว่าเมื่อมีการเพิกเฉย ปล่อยให้ผ่านไปได้ถึง 1.2 ล้านเม็ด จึงไม่อยากให้ผู้ประกอบการกลัวว่าจะเสียลูกค้า เพราะหากเป็นสุจริตชนย่อมไม่กลัวที่จะต้องถูกตรวจสอบ แต่พวกที่เดือดร้อน คือ โจรที่ลักลอบขนยาเสพติดมากกว่า จึงอยากให้ผู้ประกอบการสังเกตชื่อ นามสกุล บุคคลที่ส่อพิรุธ สินค้าที่มีลักษณะผิดปกติ เพราะยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าจะหนักเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น

ขณะที่ พ.ต.อ.สมคิด หมั่นงาน รอง ผกก.สส.สภ.เมือง จ.เชียงราย ชี้แจงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือว่า ขณะนี้แม้ยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กับการเข้าไปตรวจสอบภาคขนส่งโดยตรง แต่ก็มี พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดบังคับใช้ ซึ่งระบุเอาไว้หลายข้อว่า หากตรวจพบมีการช่วยเหลือ รับเงินจากผู้กระทำความผิดเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการกระทำผิดก็ต้องรับโทษเท่ากับคนกระทำความผิด เช่น หากผู้ค้าถูกจำคุก หรือประหารชีวิต ผู้ประกอบการก็อาจจะต้องโทษเหมือนกัน

ทั้งนี้ เดิมพนักงานสอบสวนไม่ได้สอบสวนลงลึกไปถึงผู้ประกอบการมากนัก แต่นับจากนี้ หากยังไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่คงต้องอาศัยกฎหมายเรียกมาสอบสวน หรือถ้าเข้าข่ายช่วยเหลือก็ต้องตั้งข้อกล่าวหากันต่อไป ส่วนร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เสนอโดย ปปง.นั้นกำหนดเอาไว้ชัดเจนว่า ให้ผู้ประกอบการขนส่งดำเนินการ เช่น ต้องรายงานการแสดงบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ของผู้ใช้บริการของจริงต่อเจ้าหน้าที่ หากผู้ใช้บริการพยายามไม่แสดงบัตร สินค้ามีลักษณะผิดปกติ ไม่อยากให้ตรวจสอบพัสดุ มีพฤติกรรมส่งสินค้าเป็นประจำ ให้ภาคเอกชนแจ้งเจ้าหน้าที่ กำหนดให้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดสำคัญ จัดทำบัญชีการรับสินค้าให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ภายใน 180 วัน เป็นต้น หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกดำเนินคดี
กำลังโหลดความคิดเห็น