เพชรบุรี - เจ้าหน้าที่ป่าไม้เพชรบุรี นำกำลังบุกตรวจสอบรถแบ็กโฮ 2 คัน บริเวณบ่อน้ำเก่า หมู่ 7 บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการขุดบ่อน้ำในพื้นที่ดังกล่าว พบรถแบ็กโฮ 2 คัน เป็นของหน่วยบัญชาทหารพัฒนาที่ 13 มีทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือพร้อมอาวุธประจำตัวคุ้มกันอยู๋
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (31 ส.ค.) นายเฉลา ตอนสุข หัวหน้าป้องกันรักษาป่าที่เพชรบุรี 1 (ยางชุม) อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการนำรถแบ็กโฮมาทำการไถปรับหน้าดินเพื่อขุดลอกเป็นสระน้ำ คาดว่าจะเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนบริเวณหมู่ 7 บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จึงประสานนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รวมกว่า 20 นาย เข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการขุดตักดินกินพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ สภาพพื้นที่เป็นบ่อน้ำเก่าที่มีการขุดดินขึ้นเป็นคัน และมีการแผ้วถางป่าที่อยู่รอบๆ บริเวณขอบบ่อ รวมทั้งยังมีกองไม้ท่อนวางอยู่กลางพื้นที่ 4 ท่อน นอกจากนี้ ยังพบรถแบ็กโฮจอดอยู่ จำนวน 2 คัน และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ พร้อมอาวุธประจำตัวอีกจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นสอบถาม จ.ส.อ.วีระ เขลาลำธาร ทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ให้การว่ารถแบ็กโฮ ทั้ง 2 คันเป็นของหน่วยบัญชาทหารพัฒนาที่ 13 (น.พ.ค.13) อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มาดำเนินการขุดลอกตามโครงการขุดบ่อน้ำตามโครงการขุดบ่อน้ำให้ช้างป่าของกองทัพ และระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการพระราชดำริฯ ซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยจะนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มายืนยันความถูกต้องในการดำเนินงานในวันจันทร์ที่ 2 ก.ย.นี้ ที่ อบต.ป่าเด็ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกการเข้าตรวจสอบในครั้งนี้ไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะให้ดำเนินการตามโครงการต่อไป
ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ตนได้รับการประสานมาจากหัวหน้า นายเฉลา ตอนสุข ซึ่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีรถแบ็กโฮเข้ามาขุดดินในพื้นที่ซึ่งที่จะประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ หลังจากตรวจสอบจึงรู้ว่าเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการสร้างแหล่งน้ำแต่ที่มาที่ไปในที่ประชุมก็จะมีแม่ทัพภาคที่ 1 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พ.อ.นภดล วัชโรทัย และเลขามูลนิธิเขาใหญ่ ที่เข้าร่วมประชุมในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งให้ระงับโครงการนี้ก่อนยังไม่ให้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
หลังตรวจสอบตนเห็นว่ามีการขุดเอาดินออกนอกพื้นที่ อีกส่วนหนึ่งก็มีการตัดไม้ ไม้ที่มีการโค่นล้มส่วนหนึ่งมีการตัดเป็นท่อนไว้คาดว่าน่าจะมีการขนย้าย และมีไม้ท่อนใหญ่เป็นไม้มะค่าโมง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 150 ซม. ยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะถูกต้อง แต่ด้วยจากการที่ตรวจสอบเบื้องต้นทางหัวหน้าเฉลา ตอนสุข เป็นเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบได้ตรวจสอบว่ามีการขอใช้พื้นที่ดังกล่าวอย่างถูกต้องหรือไม่โดย เบื้องต้นนายเฉลา บอกว่ายังไม่มีเอกสารหลักฐานขอใช้แจ้งมาทั้งสิ้น
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมอย่างนี้ไม่ถูกต้องการดำเนินการในพื้นที่ป่า หรือจะรื้อป่าที่มีไม้ยืนต้นออกต้องขออนุญาตที่ถูกต้องตามระเบียบของกรมป่าไม้ ซึ่งจะต้องมีการเสียค่าภาคหลวงจะต้องมีการดำเนินการตามระเบียบอย่างถูกต้อง ซึ่งการขอใช้ประโยชน์พื้นที่เราต้องกันพื้นที่ออกก่อนซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ
ดังนั้น การดำเนินการกับหน่วยงานใดๆ ต้องมีขั้นตอนที่ถูกต้อง ยิ่งป่าที่ถูกทำอย่างนี้แล้วเราจะมีการผนวกเป็นพื้นที่อุทยานฯ ด้วย มันก็สุ่มเสี่ยง เบื้องต้นทางฝ่ายทหารยังไม่เอกสารใดมายืนยัน เราจำเป็นต้องยึดเครื่องจักร และไม้เหล่านี้ดำเนินคดีในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวน ขุดแร่ขุดดินออกไปจากพื้นที่ป่าสงวน 2.มีการบุกรุกแผ้วถางป่า 3.มีการแปรรูปตัดไม้ท่อน
สำหรับที่มีการบอกว่าเป็นการทำงานตามโครงการของฝ่ายทหารนั้น ตอนที่ตนเข้ามาก็พบกับหน่วยงานของทัพพระยาเสือ และไม่ให้เราเคลื่อนย้ายแบ็กโฮ ตรงนี้เรายังไม่ได้พูดคุยกัน หากเขาทำถูกต้องก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะถ้ามีการขออนุญาต มีการดำเนินการถูกต้อง เขาก็จะสามารถดำเนินการได้ต่อ
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยังกล่าวอีกว่า เบื้องต้นเขามี 2 โครงการ คือ โครงการที่ขุดในเขตป่าสงวน กับโครงการที่ขุดในเขตอุทยานฯ ซึ่งในเขตอุทยานฯ เราไม่ขัดข้องในการดำเนินการ แต่ขอให้มาขออนุญาตให้ถูกต้อง แต่ช่วงนี้ยังไม่มีการขออนุญาต แต่เขาจะเข้าไปดำเนินการเลยมันไม่ได้ ซึ่งหากตนปล่อยให้เข้าไปดำเนินการเลยเท่ากับว่าตนละเลยมาตรา 157 และทางอธิบดีต้องเป็นคนอนุญาตในการดำเนินการนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่าที่เพชรบุรี 1 (ยางชุม) และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเข้ามาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวนั้น มีนายอรรถพล แจ้งเรือง นายก อบต.ป่าเด็ง และชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งเข้าดู และจับกลุ่มพูดคุยถึงการทำงานระหว่างทหาร และฝ่ายอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า เป็นการทำงานที่เหมือนไม่ค่อยจะมีการประสานงานกันเท่าไร และสงสัยประเด็นที่เข้ามาจับกุมในวันนี้
นายอรรถพล แจ้งเรือง นายก อบต.ป่าเด็ง เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่จับจองของนางไมตรี คงนุกูล อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 7 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นจับจองทำกินดั้งเดิมมานานนับ 10 ปี อีกทั้งจุดที่ขุดเป็นบ่อน้ำเก่าในพื้นที่
การขุดสระครั้งนี้เป็นงบประมาณของ ผบ.สูงสุด โดยใช้งบประมาณ จำนวน 4 ล้าน 6 แสนบาท เดิมทีได้รับงบประมาณในการขุดบ่อน้ำ จำนวน 14 บ่อ แบ่งเป็นในเขตอุทยานฯ 7 บ่อ และในเขตการดูแลของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ 7 บ่อ
ในครั้งแรกหน่วย น.พ.ค.13 จะเอารถแบ็กโฮไปขุดในพื้นที่ของอุทยานฯ แต่ไม่ได้รับอนุญาตเราจึงมาทำด้านนอก แต่พอมาทำด้านนอกเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ จะมาจับกุม ซึ่งจริงๆ แล้วการขุดครั้งนี้เป็นการขุดบ่อน้ำให้ช้าง และเป็นงบประมาณของทหาร และทหารเป็นผู้ดำเนินการเองเพื่อให้ช้างกับคนได้อยู่ร่วมกันแต่ถ้าเป็นอย่างนี้อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการประชุมกันมาตั้งแต่ต้นจนจบ แต่สุดท้ายก็ยังมาเป็นอย่างนี้
ดังนั้น ถ้าจะเป็นการบุกรุกก็คงไม่ใช่เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ในโครงการพระราชดำริ ที่หน่วยพัฒนาสังคมที่ 37 เพชรบุรี ดูแลอยู่ และเจ้าของที่ก็ยินยอมให้ขุด อีกทั้งเป็นสระเก่าไม่ได้บุกรุกใหม่ ซึ่งการขุดสระนี้ดำเนินการมา 2 วันแล้ว และมีเจ้าหน้าที่มาจะจับโดยไม่ทราบสาเหตุว่ามีเหตุอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านายเฉลา ตอนสุข จะยังไม่มีการดำเนินการเอาผิดต่อการขุดบ่อน้ำดังกล่าวมีเพียงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน แต่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ยังยืนยันจะให้ดำเนินคดี พร้อมกับสั่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำรถเทรลเลอร์มาใส่รถแบ็กโฮไปไว้ที่สถานีตำรวจ ทำให้บรรยากาศตึงเครียด เพราะทหารไม่ยอมที่จะให้รถแบ็กโฮออกจากพื้นที่ โดยยืนคุมรถแบ็กโฮไว้ทั้ง 2 คัน และมีการวางกำลังไว้ปากทางเข้าเพื่อไม่ให้รถเทรลเลอร์เข้ามาในพื้นที่ด้วย
ท้ายสุดยังไม่มีการนำรถแบ็กโฮออกนอกพื้นที่ เพราะจะต้องให้ทางผู้บังคับคัญชาของนายชัยวัฒน์ เข้ามาตรวจสอบ พร้อมกับให้ทางปลัดอำเภอแก่งกระจานมาเซ็นรับรองเพื่อรอตรวจสอบเอกสารที่ทางทหารจะนำมายืนยันในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
