พะเยา - ตำรวจ สภ.ภูกามยาว ยังไม่ระบุสาเหตุคนร้ายใช้ยางรถยนต์ 4 เส้น ราดน้ำมันเผารถแบ็กโฮ อบจ.พะเยาวอดทั้งคัน หลังส่งไปช่วยขุดบ่อทำน้ำประปาผิวดิน
วันนี้ (19 ส.ค.) พ.ต.ท.สำราญ วงศ์ศิริ รอง ผกก.สส.สภ.ภูกามยาว จ.พะเยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีคนร้ายลอบวางเพลิงรถแบ็กโฮขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พะเยา ที่ไปขุดบ่อน้ำเพื่อทำประปาผิวดินในหมู่บ้านหนองเลา หมู่ 4 ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว ขณะจอดไว้ข้างบ้านเลขที่ 64 หมู่ 4 บ้านหนองเลา ของนายศรีทอน เจนใจ อายุ 53 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าหลังจาก พ.ต.ต.จำเนียร แสงคำ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ภูกามยาว รับแจ้งเหตุ จึงไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.ภูกามยาว พ.ต.ท.ชูเกียรติ วรรณสมพร หัวหน้าพนักงานสอบสวน และรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลดงเจน 1 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่ในซอยห่างจากถนนหนองเลา-ภูกามยาว ประมาณ 20 เมตร เมื่อไปถึงเพลิงใกล้สงบแล้ว ใช้เวลา 20 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่รถเสียหายเกือบทั้งคัน โดยเฉพาะห้องโดยสาร ห้องควบคุมเครื่องกลถูกไฟไหม้หมด
จากการตรวจสอบพบว่า ที่ห้องควบคุมเครื่องกลมีขดลวดยางรถยนต์ และที่หลังห้องควบคุมมีขดลวดวงล้อยางรถยนต์ 2 เส้น และที่ใต้ฐานล้อด้านหน้าอีก 1 เส้น จึงเชื่อได้ว่าเป็นการวางเพลิงแน่นอน
สอบถามนายศรีทอน เจนใจ ให้การว่า เวลาประมาณ 01.00 น. นางอวน เจนใจ ภรรยาตื่นขึ้นมากินยาแก้ไข้ เห็นเปลวไฟลุกไหม้ที่รถแบ็กโฮของ อบจ.ที่จอดไว้ข้างบ้าน จึงเรียกให้ตนย้ายรถแบ็กโฮของตนที่จอดอยู่ใกล้กัน ขณะเดียวกันก็ให้ลูกสาวต่อสายยางฉีดน้ำดับไฟที่ลุกไหม้บริเวณห้องเครื่อง เมื่อตำรวจมาพร้อมกับรถดับเพลิงไฟใกล้จะมอดแล้ว
พ.ต.ท.สำราญกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายทูล ธิยะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหนองเลา ให้การว่า คณะกรรมการหมู่บ้านมีมติให้ขุดสระเก็บน้ำประปาผิวดินเพิ่มจากเดิม เพื่อกักเก็บน้ำให้เพียงต่อความต้องการ ซึ่งสระน้ำที่จะขุดเป็นที่ดินสาธารณะ อยู่ตรงข้ามกับถังน้ำประปา แต่มีผู้ไปเข้าทำประโยชน์อยู่ ซึ่งได้มีการพูคุ้ยและเยียวยาแล้ว 7,500 บาท จากนั้นจึงทำโครงการเสนอนายก อบจ. ขอรับการสนับสนุนรถแบ็คโฮมาทำการขุดสระ ซึ่งทางนายก อบจ.ส่งรถเข้ามาทำงานเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยหลังเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.พะเยา เข้าตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม และได้ส่งชุดสืบสวนหาข่าวเชิงลึกแล้ว
ด้านนายศรีทอน เจนใจ อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า คนในหมู่บ้านล้วนเป็นเครือญาติกัน พูดคุยกันรู้เรื่อง ปัญหาคนในหมู่บ้านตัดทิ้งไปได้เลย รถเข้ามาทำงาน ชาวบ้านก็ลงขันกันจ้างคนในหมู่บ้านมาผลัดเปลี่ยนกันเฝ้าคนละ 150 บาทต่อคืน โดยจะเฝ้าทุกคืนวันจันทร์-ศุกร์ เพราะคนขับรถแบ็กโฮของ อบจ.จะกลับบ้านหลังเลิกงานเวลา 16.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์จะนำรถมาจอดที่ข้างบ้านตน เพื่อลดค่าจ้างคนนอนเฝ้า ซึ่งสระที่ขุดกับบ้านตนก็อยู่เยื้องกันเล็กน้อยเท่านั้น
นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ประธานสภา อบจ.กล่าวว่า จากการพูดคุยกับ พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ ยศแผ่น ผกก.สภ.ภูกามยาม ยืนยันว่าเป็นการวางเพลิงแน่นอน เพราะหลักฐานจากขดลวดยางรถยนต์ถึง 4 เส้น และแกลลอนน้ำมันขนาด 5 ลิตร อีก 1 แกลลอน สิ่งที่สภา อบจ.ต้องดำเนินการต่อไป คือ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่ารถแบ็คโฮคันนี้ใครเป็นผู้อนุมัติให้ออกมาทำการขุดสระน้ำ เป็นโครงการอะไร ใครรับผิดชอบค่าน้ำมัน และเบี้ยเลี้ยงคนขับ เพราะรัฐเป็นผู้เสียหาย และเป็นเงินจากภาษีอากรของประชาชน สภาจะต้องสอบให้ชัดเจน ซึ่งเท่าที่ทราบรายการนี้ไม่ได้ผ่านสภาอนุมัติ