ชี้ไร่ฝิ่นเหนือยังเฟื่อง ปลูกเขตชายแดน ต่อสปริงเกอร์ให้น้ำ-พ่นยาฆ่าแมลงช่วย

พิษณุโลก - มทภ.3-ป.ป.ส.ชี้แนวโน้มไร่ฝิ่นภาคเหนือยังเพิ่มขึ้น เหตุราคาฝิ่นดิบสูง คนลักลอบปลูกตามแนวชายแดนทำเหมือนแปลงผัก ยากต่อการสำรวจ แถมต่อสปริงเกอร์รดน้ำ ใช้ยาฆ่าแมลงช่วย พัฒนาปลูกได้หลายรุ่นในรอบปี

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 ส.ค. ) พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ประชุมสรุปการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่น และการตัดทำลายไร่ฝิ่นประจำปี 2556 ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่า การลักลอบปลูกฝิ่นปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะราคาฝิ่นดิบค่อนข้างสูง การแพร่ระบาดของยาเสพติดชนิดต่างๆ ยังรุนแรงอยู่

โดยผู้ลักลอบปลูกฝิ่นยังคงปลูกตามแนวชายแดน ใช้สปริงเกอร์ให้น้ำ ฉีดยาฆ่าแมลง ลักษณะปลูกแปลงผัก ยากต่อการสำรวจทางอากาศ ส่วนผลผลิตมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความชื้นที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของต้นฝิ่น และความเข้มข้นของเจ้าหน้าที่ในการเข้าตัดทำลายต้นฝิ่น

ซึ่งปีที่ผ่านมากองทัพภาคที่ 3 ตรวจพบพื้นที่ปลูกฝิ่น 21 เป้าหมาย 2,484 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 1,612.95 ไร่ ครอบคลุม จ.เชียงราย แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร ลำปาง และน่าน ตัดทำลายไร่ฝิ่นได้ 2,474 แปลง 1,612.95 ไร่ ผลปฏิบัติการคิดเป็น 100%

ขณะที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 ตรวจพบพื้นที่ปลูกฝิ่น 4 พื้นที่เป้าหมาย 39 แปลง 19.02 ไร่ ตัดทำลายไร่ฝิ่น 39 แปลง ผลปฏิบัติการคิดเป็น 100%

ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินตรวจพบพื้นที่ปลูกฝิ่น 4 พื้นที่เป้าหมาย 50 แปลง 27.05 ไร่ ตัดทำลายไร่ฝิ่น 50 แปลง ผลปฏิบัติการคิดเป็น 100%

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้ายังคงรุนแรงขึ้น เนื่องจากชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดนยังมีการผลิตต่อเนื่อง ทำให้ยังคงมียาบ้าลักลอบขนเข้ามาในประเทศไทยอีก