ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่จับมือมาเลเซียจัดงาน Thailand-Malaysia World Halal Expo 2013 ที่ศูนย์ประชุมฯ นานาชาติฯ 24-27 ต.ค.นี้ มีทั้งบูทจากผู้ประกอบการ-จับคู่ธุรกิจ-สัมมนาวิชาการ ผวจ.เชียงใหม่เชื่อเป็นประโยชน์ช่วยให้คนเชียงใหม่รู้เรื่องธุรกิจฮาลาลมากขึ้น ด้านประธานโครงการชี้ธุรกิจฮาลาลเม็ดเงินมหาศาล-โลกต้องการอีกเยอะ คนไทยต้องเร่งศึกษา
วันนี้ (26 ส.ค.) ที่โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงาน Thailand-Malaysia World Halal Expo 2013 Chiangmai โดยมี ดร.อดิศักดิ์ อัสมิมานะ ประธานโครงการ Dato’ Seri Jamil Bidin, Chief Executive of Halal Industry Development Corporation นายกรดนัย ภิญโญธนนาภัทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอ็มซี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด และคณะ ร่วมในการแถลงข่าว
การจัดงานดังกล่าวซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 24-27 ต.ค. 2556 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ 7 รอบพระชนมพรรษา มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอนิทรรศการทางธุรกิจในระดับนานาชาติเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าและบริการตามมาตรฐานฮาลาล ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตและมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนของประเทศมาเลเซียในการจัดงานครั้งนี้
โดยในงานดังกล่าวจะประกอบด้วยการออกบูทจากผู้ประกอบการต่างๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตสินค้าและบริการตามมาตรฐานฮาลาล การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่สนใจได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้เกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานฮาลาล การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยกับนักธุรกิจจากต่างประเทศ และการสัมมนาทางวิชาการ นอกจากนี้ยังมีการออกร้านแสดงสินค้าของผู้ประกอบการต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก
นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวมีจุดเริ่มต้นจากการที่คณะของจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมหารือกับทางมาเลเซีย และเห็นพ้องกันว่าควรมีการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันเพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาของทั้งสองฝ่าย และนำไปสู่การเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถานที่จัดงาน Thailand-Malaysia World Halal Expo 2013
การจัดงานดังกล่าวถือเป็นโอกาสอันดีที่ชาวเชียงใหม่จะได้ทำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าและบริการ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานฮาลาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับและได้รับความสนใจอย่างมากจากตลาดโลกในปัจจุบัน รวมทั้งยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการและนักธุรกิจของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะได้ศึกษาลู่ทางเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว
ด้าน ดร.อดิศักดิ์ อัสมิมานะ ประธานโครงการ กล่าวว่า งานดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกในไทยที่มีการนำเสนอเรื่องของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานฮาลาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าถึง 2.3 ล้านล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังเป็นสินค้ามาตรฐานฮาลาล ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลิตภัณฑ์ ไปจนถึงการบริการต่างๆ ยังเป็นที่ต้องการของโลกเป็นอย่างมาก ด้วยมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ
นอกจากประเทศไทยและจังหวัดเชียงใหม่จะได้รับประโยชน์จากการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานฮาลาลแล้ว ความร่วมมือในการจัดงานระหว่างไทยกับมาเลเซียในครั้งนี้ยังถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ในอาเซียน เพื่อนำไปสู่การร่วมกันพัฒนาศักยภาพให้ภูมิภาคสามารถผลิตสินค้าและบริการตามมาตรฐานฮาลาลเพื่อรองรับความต้องการของโลกในอนาคตอีกด้วย
