ลำปาง - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้ว่าฯ ร.ฟ.ท. ลงดูจุดเกิดเหตุรถไฟสายเหนือตกรางถี่ยิบที่ลำปาง ชี้ 3 ปมหลัก สั่งเปลี่ยนไม้หมอนเป็นหมอนคอนกรีตช่วงเกิดเหตุให้เสร็จ พ.ย.นี้ ส่วนรางสายเหนือให้เสร็จ พ.ค.57
เย็นวานนี้ (24 ส.ค.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) พร้อมคณะตรวจสอบบริเวณที่รถเร็ว 102 เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ตกรางเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ณ สถานีทางหลวงที่ 675/12 ระหว่างสถานีขุนตาน-แม่ตานน้อย อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยได้นั่งรถโดยสารเข้าไปยังสถานีรถไฟขุนตาล อ.แม่ทา จ.ลำพูน เขตอุทยานแห่งชาติขุนตาล ก่อนขึ้นรถไฟสำรวจเส้นทางตั้งแต่อุโมงค์รถไฟถ้ำขุนตาล แล้ววิ่งด้วยรถรางมาตามเส้นทางรถไฟขาเข้าลำปาง เพื่อมายังจุดที่เกิดขบวนรถไฟตกรางทั้ง 2 ครั้ง ในเขต อ.ห้างฉัตร เพื่อสำรวจความเสียหาย และสภาพราง ไม้หมอน ก่อนที่จะประเมินสาเหตุของการเกิดเหตุรถไฟตกรางบ่อยครั้ง
นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบโดยรวมพบปัญหาที่ทำให้รถไฟตกรางบ่อยครั้งน่าจะมาจาก 3 สาเหตุ คือ ดินบริเวณรางรถไฟทรุดตัวเนื่องจากฝนตก สภาพรถไฟที่เก่า และปัญหารางรถไฟ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการซ่อมบำรุงเพื่อเปลี่ยนจากไม้หมอนเป็นหมอนคอนกรีต ช่วงสถานีพิษณุโลก-ลำปาง ระยะทาง 360 กิโลเมตร ส่วนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนมีระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร รวมถึงจุดที่เกิดเหตุด้วย
โดยเฉพาะจุดที่มีปัญหา คือ บริเวณที่เกิดเหตุบ่อยพบว่าเป็นทางลงเขา และโค้ง จะเห็นว่าใกล้จุดเกิดเหตุพนักงานขับรถจะจับเบรกเป็นระยะทางยาวก่อนเกิดเหตุล้อตกราง จุดนี้จะให้เจ้าหน้าที่เร่งเปลี่ยนหมอนให้เสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ยอมเสียรายได้ประมาณวันละ 200,000 บาท
ส่วนระยะทางทั้งหมดที่ต้องเปลี่ยนเป็นหมอนคอนกรีต คาดว่าจะเสร็จเดือนพฤษภาคม 57 โดยต้องให้วิศวกรฝ่ายโยธาของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มาจากส่วนกลาง เข้ามากำกับดูแลวิศวกรซ่อมแซมเส้นทางรถไฟสายเหนือทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมา วิศกรที่ประจำการจะเป็นวิศวกรรุ่นใหม่ ไม่ค่อยมีประสบการณ์
