สระแก้ว - ผู้ว่าฯ สระแก้ว เต้นสั่งนายอำเภอ และสำนักพุทธศาสนาจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบพระสงฆ์พาแม่ชีมาตั้งรกรากทำนากว่า 50 ไร่ในพื้นที่ ขณะที่เจ้าคณะจังหวัดเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบพรุ่งนี้
วันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ นายสิทธิพร บัวศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 บ้านเนินไทร ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนหนึ่งได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบกรณีชาวบ้านพบพระสงฆ์ 1 รูป และแม่ชีจำนวนหนึ่งมาจำพรรษา และทำนามีเครื่องมือทำการเกษตรครบครัน อยู่ท้ายหมู่บ้านเนินไทร หมู่ 15 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งไม่ใช่วัด หรือที่พักสงฆ์แต่อย่างใด หลังชาวบ้านพบเห็น และพูดกันหนาหูว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับสงฆ์ไทยในพระพุทธศาสนา จึงได้ขอเข้าไปตรวจสอบ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ประสานเจ้าหนี้ที่ตำรวจ สภ.เมืองสระแก้ว เข้าไปตรวจสอบ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศาลากลางจังหวัดแล้วต่างปฏิเสธว่า ไม่ใช่หน้าที่ จึงได้นำสื่อมวลชนเข้ามาตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบพื้นที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่กว้างใหญ่ มีเนื้อที่ทำนาประมาณ 50 ไร่ มีการสร้างที่พักมุงหลังคาสังกะสี 2 หลัง พบรถไถนา จำนวน 1 คัน รถตู้ยี่ห้อฮุ่นได สีขาวทะเบียน ฮน 8331 กรุงเทพมหานคร 1 คัน รถบรรทุกยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว ทะเบียน 82-1146 ปทุมธานี ได้ปลูกข้าวไว้เต็มพื้นที่
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พบกับพระสุบิน สุภธฺมโม (จันเสงี่ยม) อายุ 55 ปี ตามใบสุทธิสังกัดวัดหนองแขม หมู่ 15 ต.ประดู อ.ลานศักดิ์ จ.อุทัยธานี อยู่บริเวณบ้านหนองหลวงเนื่องรถบรรทุก 4 ล้อ ซึ่งพระสุบินได้ กล่าวว่า “พระทำนามันผิดตรงในเมื่ออาตมาภาพไม่ได้ทำเองก็ได้เอาที่ดินจำนวน 50 ไร่ ที่นายทองล้วน อักษร ที่มีศรัทธายกที่ให้ทำ อาตมาก็นำแม่ชีทั้ง 6 คน นำรถไถนามาสร้างกุฏิเพื่อเป็นพักสงฆ์ในระหว่างเข้าพรรษา ที่อาตมาไม่ได้แจ้งพระในพื้นที่เนื่องจากอาตมาเป็นพระธรรมยุต ไม่ได้ขึ้นกับพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย การกระทำดังกล่าวไม่ได้ประพฤติชั่วอะไร ไม่ได้ทำให้พุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา ที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าพระทำไร่ทำนาอาตมาไม่ได้เพียงแต่กำกับดูแลเท่านั้น”
ต่อมาน ายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งให้นายอำเภอเมืองสระแก้ว สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสระแก้ว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว แต่ไม่พบพระสุบิน เนื่องจากออกไปทำธุระข้างนอก โดยพบเพียงแม่ชี 5 คน และพราหมณ์ 1 คน และในวันพรุ่งนี้ (21 ส.ค.) เจ้าคณะจังหวัดสระแก้ว จะเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง
ด้านพระครูธำรงค์ ปริยัติคุณ เจ้าคณะอำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้รับทราบเรื่องจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกรณีมีพระ มาปลูกข่าวทำนาแล้ว และได้สั่งการให้พระครูสุวัฒน์ ภัทราภรณ์ เจ้าคณะตำบลสระขวัญ เขต 1 จังหวัดสระแก้ว ในฐานะผู้รับผิดชอบในพื้นที่ และตามขั้นตอนการปกครองคณะสงฆ์ เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
สำหรับปัญหาการทำนาจะผิดวินัยสงฆ์หรือไม่นั้น ขั้นตอนแรกต้องทำการตรวจสอบก่อน จากนั้นก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนว่า ที่ชาวบ้านมาร้องเรียนว่าพระทำผิดวินัยสงฆ์ และหาองค์ประกอบต่างๆ เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งต้องดำเนินการไปตามพระธรรมวินัย ถ้าผิดจริยธรรมจริงตามที่ชาวบ้านร้องเรียน ซึ่งต้องสอบสวนเหตุผลว่าทำไมพระถึงมาทำนาเพื่อประโยชน์อะไร และทำความเข้าในใจชาวบ้านในพื้นที่ และเท่าที่ชาวบ้านร้องเรียนมา มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับเป็นพระสงฆ์ ที่ปฏิบัติในศีลในธรรมกิจของสงฆ์นั้นต้องทำอย่างไร เพราะตั้งอยู่ในศรัทธาของญาติโยมดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดความแตกสามัคคีแก่ชาวบ้าน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจ
ด้านเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนาจังหวัดสระแก้ว ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ทางสำนักพุทธไม่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับพระสงฆ์ เป็นเรื่องของสงฆ์ ช่วงนี้งานยุ่งมากไม่มีเวลารับเรื่อง ต้องนำหลักฐานมาแสดงให้ดูจึงจะไปตรวจสอบให้ ชาวบ้านจะมาแจ้งทางโทรศัพท์ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าผู้แจ้งเป็นตัวจริง หรือตัวปลอม ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอยากมาก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของส่วนรวม และเป็นเรื่องของการทำลายพระพุทธศาสนาให้เสื่อมเสียไม่ใช่เรื่องส่วนตัวใครได้ หรือเสียผลประโยชน์
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า สำนักพุทธศาสนาจังหวัดมีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ต้องลงไปตรวจสอบ เพราะเป็นข้าราชการ จะกล่าวไม่รับผิดชอบเช่นนี้ไม่ได้ หลังจากนี้จะแจ้งให้ทางสำนักพุทธ รายงานให้จังหวัดทราบ และต้องขอขอบคุณชาวบ้าน และสื่อมวลชนที่ช่วยกันสอดส่องดูแลปกป้องพระพุทธศาสนา แจ้งข่าวสารให้ทราบไม่ใช่มาปฏิเสธเรื่องเช่นนี้กับสำนักพุทธ แล้วใครอยากจะช่วยเหลือหน่วยงานราชการ โดยในเบื้องต้น ได้มอบให้นายอำเภอเมืองสระแก้ว เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงรีบรายงานเข้ามาที่จังหวัด เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องของความศรัทธาต่อศาสนา ต่อจิตใจพุทธศาสนิกชนหน่วยงานราชการจะนิ่งเฉยไม่ได้เด็ดขาด
ด้านแม่ชีสมคิด เต็งสี อายุ 48 ปี ชาวบ้าน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี กล่าวว่า ตนเองป่วยได้มารักษาตัวอยู่กับพระสุบิน แล้วอาการดีขึ้น จึงได้มามาถือศีลแปด นุ่งขาวหุ่มขาว ก็เห็นพระสุบิน มาทำนาปลูกข้าวเพื่อไปช่วยเด็กกำพร้า และช่วยบ้านพักคนชรา จึงได้ตามมาช่วยทำนาด้วย เพราะเห็นว่าทำประโยชน์ให้แก่สังคม
นายสิทธิพร บัวศรี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 บ้านเนินไทร ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว กล่าวว่า เห็นพระสุบิน ได้นำญาติโยมเข้ามาทำนา แล้วก็กลับไป ถึงเวลาฤดูเก็บเกี่ยวก็เดินทางมา แต่ในปีนี้ พระสุบิน มาพร้อมกับแม่ชี และมาสร้างที่พักมาค้างแรมเข้าพรรษาอยู่ที่นี่เลย ซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน พระสงฆ์จะมาปฏิบัติตัวเช่นนี้ในหมู่บ้านที่ตนเองปกครอง และชาวบ้านต่างก็มาแจ้งว่าไม่เหมาะสม พระก็ต้องอยู่ที่วัดปฏิบัติกิจของสงฆ์ ที่นี่ก็ไม่ได้เป็นวัด หรือสำนักสงฆ์ใดๆ ขอให้พระชั้นผู้ใหญ่มาตรวจด้วยเพื่อป้องกันการทำไม่ให้เสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา และหมู่บ้านของตน เกรงว่าจะเป็นกรณีเดียวกันกับเณรคำ
