ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ฝนชุกส่งผลไข้เลือดออกระบาดหนัก 4 จังหวัดอีสานล่างป่วยแล้วกว่า 6,000 ราย ตาย 5 ราย เพิ่มขึ้น 3 เท่า เร่งรณรงค์ให้ ปชช.ร่วมกำจัดต้นตอของโรค
วันนี้ (1 ส.ค.) นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 (สคร.5) นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของโรคไข้เลือดออกในพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัดอีสานตอนล่างว่า จากข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 ก.ค. 2556 พบผู้ป่วยไข้เลือดออกในพื้นที่เครือข่ายบริการสาธารณสุขที่ 9 รวม 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์ ชัยภูมิ นครราชสีมา และสุรินทร์ มีผู้ป่วยจำนวน 6,158 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย โดย จ.บุรีรัมย์พบผู้ป่วย 1,101 ราย จ.ชัยภูมิพบผู้ป่วย 756 ราย จ.นครราชสีมาพบผู้ป่วย 2,895 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และ จ.สุรินทร์พบผู้ป่วย 1,406 ราย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 10-14 ปี ซึ่งเป็นสถิติที่สูงกว่าปีที่ผ่านมาถึง 3 เท่า
นพ.ธีรวัฒน์กล่าวว่า ปีนี้ประเทศไทยมีการระบาดของไข้เลือดออกอย่างรุนแรง สืบเนื่องจากภาวะโลกร้อนและมีฝนตกเป็นระยะๆ มาตั้งแต่ต้นปี ทำให้เกิดแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและยังไม่มียารักษาเฉพาะ การป้องกันจึงมีความสำคัญโดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญมากที่สุด อาการที่สำคัญของโรคไข้เลือดออกคือ ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงลอยติดต่อกันหลายวัน หน้าแดง กินยาลดไข้แล้วไข้ยังไม่ลด ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก บางรายมีจุดเลือดออกตามแขนขา และเมื่อไข้ลดมีอาการซึม เบื่ออาหาร
อย่างไรก็ตาม ในช่วงหน้าฝนส่งผลให้วงจรยุงลายขยายตัวอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นประชาชนจะต้องมีความเข้าใจอย่างถูกต้องในการร่วมกันกำจัดต้นตอของโรค ทำได้โดย 1. ตรวจเช็กจุดที่ลูกน้ำยุงลายวางไข่อย่างสม่ำเสมอ และ 2. ควรเข้าไปตรวจตามมุมหรือจุดต่างๆ ที่เป็นแหล่งแพร่ระบาดของยุงลาย ซึ่งทุกคนคิดว่ายุงลายมักอยู่ภายในบ้าน แต่จริงๆ แล้วสาเหตุหลักอยู่นอกบ้านเป็นส่วนใหญ่
เช่น ภาชนะที่มีน้ำขัง ศาลพระภูมิหน้าบ้าน วัด หอพักหรือตามท่อระบายน้ำ ควรดูแลอย่างสม่ำเสมอ หากพบให้รีบทำลายเพื่อเป็นการตัดวงจรชีวิตยุงลายไม่ให้ไปแพร่เชื้อไข้เลือดออกต่อไปได้
