กาญจนบุรี - จังหวัดกาญจนบุรี ประกาศเขตภัยพิบัติอุทกภัย 2 อำเภอ “สังขละบุรี-ทองผาภูมิ” 10 ตำบล 37 หมู่บ้าน ล่าสุด น้ำป่าทะลักเข้าท่วมอีก 2 หมู่บ้าน ที่ปรังเผล
จากการที่เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักติดต่อหลายวันในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นบ้านเรือนราษฎรจนได้รับความเสียหาย และกระแสน้ำได้พัดจนสะพานมอญขาดเสียหายจน ไม่สามารถเดินทางไปมาได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (1 ส.ค.) นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า 4 ถึง 5 วันที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และล่าสุด คืนที่ผ่านมา น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 10 หลังคาเรือน ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยของอุทยานฯ เข้าไปช่วยเหลือราษฎรด้วยการขนย้ายสิ่งของออกมาเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือในเบื้องต้น
ส่วนนายวิจักขณ์ ชินโคตรพงษ์ นายอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลท่าขนุน และตำบลลิ้นถิ่น ล่าสุด ได้รับรายงานจากนายไพศาล บุญรอด เกษตรอำเภอทองผาภูมิ ว่า ทั้ง 2 ตำบลมีพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบกว่า 4,000 ไร่ โดยเฉพาะนาข้าว ไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน คงจะสำรวจแล้วเสร็จ แต่จากการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า นาข้าว ไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง เสียหายประมาณ 1,000 ไร่ ส่วนบ้านเรือนของราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 400 หลังคาเรือน ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ปัจจุบัน สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ดังนั้น หากฝนไม่ตกลงมาอีกก็คงจะทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด
ด้านนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า ผลกระทบจากภัยพิบัติจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สะพานไม้ หรือสะพานอุตตะมานุสรณ์ หรือสะพานบาทเดียวขาด ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งไม่สามารถเดินทางไปมาได้ แพพักแพล่องได้จม และแตกไปกับสายน้ำ และได้เกิดน้ำท่วมตามหมู่บ้านของอำเภอสังขละบุรี สะพานคอนกรีตพังสัญจรไปมาไม่ได้เช่นกัน และมีดินสไลด์ลงมา ส่งผลให้พืชไร่ได้รับความเสียหาย และสัตว์เลี้ยงโดนน้ำพัดพาไปด้วย ผลกระทบที่ได้รับจากภัยพิบัติครั้งนี้มีหลายรายการ
เช่น พื้นที่ในเขตเทศบาล สะพานไม้ได้รับความเสียหาย แพที่อยู่บริเวณใต้สะพานไม้ได้รับความเสียหายประมาณ 30 หลัง ปลากระชังที่เลี้ยงไว้ได้รับความเสียหาย 30 กระชัง ดินโคลนถล่มบริเวณฝั่งตรงข้ามสำนักงาน สวท.สังขละบุรี และบริเวณสะพานปูนทางขึ้นวัดวังก์วิเวการาม ขณะนี้ได้จัดชุดระวังเฝ้าอย่างต่อเนื่อง และดินโคลนถล่มทับท่อส่งน้ำดิบของเทศบาลตำบลวังกะเพื่อนำไปผลิตน้ำประปาแตกได้รับความเสียหาย ล่าสุด ได้ดำเนินการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อย
เขต อบต.หนองลู สะพานคอนกรีตขาดเสียหาย 2 แห่ง ประกอบด้วย สะพานข้ามบ้านชุแหละ ม. 5 ต.หนองลู และสะพานข้ามหมู่บ้าน บ้านห้วยกบ ม.4 ต.หนองลุ อาคารเรียนบ้านซองกาเลีย ม. 8 ต.หนองลู ได้รับความเสียหาย จำนวน 1 หลัง มูลนิธิพัฒนรักษ์ ได้รับความเสียหาย เช่น ปลา หมูป่า เป็ด กบ รวมทั้งพืชเกษตรที่มีไว้สำหรับฝึกวิชาชีพให้แก่ประชาชน และถนนลูกรังบดอัดเส้นทางเข้าบ้านปะไรโหนก ม.10 ต.หนองลู ขาดเสียหาย ราษฎรสัญจรไปมาไม่ได้
เขต อบต.ไล่โว่ สะพานแขวนเสียหายชำรุด 1 แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก-อาคาร โรงอาหาร ห้องพยาบาล บ้านพักครู ห้องเก็บของ เรือนนอนเด็กบ้านไกลได้รับความเสียหาย ถนนดินขาด 1 สาย ขณะนี้ อบต.ไล่โว่ กำลังดำเร่งเนินการสำรวจ ศาลาวัดเสียหาย 1 หลัง อบต.ไล่โว่ และราษฎรบ้านสะเน่ห์พ่อง ม.1 ต.ไล่โว่ กำลังเร่งดำเนินการซ่อมแซม พร้อมออกสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น และเมื่อวันที่ 31 ก.ค.56 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้เกิดเหตุดินทรุดตัวที่หมู่บ้านมอญ ม.2 ต.หนองลู เจ้าหน้าที่ได้อพยพราษฎรบางครอบครัวออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ด้านนายเอกภพ จันทร์เพ็ญ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ในพื้นที่ 2 อำเภอ ประกอบด้วย พื้นที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ทั้งหมด 10 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 7 หมู่ 8 หมู่ 9 และหมู่ 10 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี 6 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 6 และตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4
สำหรับอำเภอทองผาภูมิ ประกอบด้วย ตำบลปิล็อค หมู่ 1 ตำบลห้วยเขย่ง หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 7 ตำบลลิ่นถิ่น หมู่ 5 และหมู่ 6 ตำบลหินดาด หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4 ตำบลสหกรณ์นิคม หมู่ 2 และตำบลชะแล หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 4 หมู่ 6 และหมู่ 7 รวมทั้งหมด 7 ตำบล 17 หมู่บ้าน
จากการที่เกิดสถานการณ์ฝนตกหนักติดต่อหลายวันในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จนทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นบ้านเรือนราษฎรจนได้รับความเสียหาย และกระแสน้ำได้พัดจนสะพานมอญขาดเสียหายจน ไม่สามารถเดินทางไปมาได้
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (1 ส.ค.) นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า 4 ถึง 5 วันที่ผ่านมา ฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และล่าสุด คืนที่ผ่านมา น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ หมู่ที่ 2 และหมู่ที่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี บ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 10 หลังคาเรือน ตนได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยของอุทยานฯ เข้าไปช่วยเหลือราษฎรด้วยการขนย้ายสิ่งของออกมาเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งนำถุงยังชีพไปช่วยเหลือในเบื้องต้น
ส่วนนายวิจักขณ์ ชินโคตรพงษ์ นายอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดอุทกภัยในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลท่าขนุน และตำบลลิ้นถิ่น ล่าสุด ได้รับรายงานจากนายไพศาล บุญรอด เกษตรอำเภอทองผาภูมิ ว่า ทั้ง 2 ตำบลมีพื้นที่เกษตรได้รับผลกระทบกว่า 4,000 ไร่ โดยเฉพาะนาข้าว ไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน คงจะสำรวจแล้วเสร็จ แต่จากการสำรวจในเบื้องต้นพบว่า นาข้าว ไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง เสียหายประมาณ 1,000 ไร่ ส่วนบ้านเรือนของราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 400 หลังคาเรือน ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ ปัจจุบัน สถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว ดังนั้น หากฝนไม่ตกลงมาอีกก็คงจะทำการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด
ด้านนายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า ผลกระทบจากภัยพิบัติจากฝนตกต่อเนื่อง ทำให้สะพานไม้ หรือสะพานอุตตะมานุสรณ์ หรือสะพานบาทเดียวขาด ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งไม่สามารถเดินทางไปมาได้ แพพักแพล่องได้จม และแตกไปกับสายน้ำ และได้เกิดน้ำท่วมตามหมู่บ้านของอำเภอสังขละบุรี สะพานคอนกรีตพังสัญจรไปมาไม่ได้เช่นกัน และมีดินสไลด์ลงมา ส่งผลให้พืชไร่ได้รับความเสียหาย และสัตว์เลี้ยงโดนน้ำพัดพาไปด้วย ผลกระทบที่ได้รับจากภัยพิบัติครั้งนี้มีหลายรายการ
เช่น พื้นที่ในเขตเทศบาล สะพานไม้ได้รับความเสียหาย แพที่อยู่บริเวณใต้สะพานไม้ได้รับความเสียหายประมาณ 30 หลัง ปลากระชังที่เลี้ยงไว้ได้รับความเสียหาย 30 กระชัง ดินโคลนถล่มบริเวณฝั่งตรงข้ามสำนักงาน สวท.สังขละบุรี และบริเวณสะพานปูนทางขึ้นวัดวังก์วิเวการาม ขณะนี้ได้จัดชุดระวังเฝ้าอย่างต่อเนื่อง และดินโคลนถล่มทับท่อส่งน้ำดิบของเทศบาลตำบลวังกะเพื่อนำไปผลิตน้ำประปาแตกได้รับความเสียหาย ล่าสุด ได้ดำเนินการซ่อมแซมเป็นที่เรียบร้อย
เขต อบต.หนองลู สะพานคอนกรีตขาดเสียหาย 2 แห่ง ประกอบด้วย สะพานข้ามบ้านชุแหละ ม. 5 ต.หนองลู และสะพานข้ามหมู่บ้าน บ้านห้วยกบ ม.4 ต.หนองลุ อาคารเรียนบ้านซองกาเลีย ม. 8 ต.หนองลู ได้รับความเสียหาย จำนวน 1 หลัง มูลนิธิพัฒนรักษ์ ได้รับความเสียหาย เช่น ปลา หมูป่า เป็ด กบ รวมทั้งพืชเกษตรที่มีไว้สำหรับฝึกวิชาชีพให้แก่ประชาชน และถนนลูกรังบดอัดเส้นทางเข้าบ้านปะไรโหนก ม.10 ต.หนองลู ขาดเสียหาย ราษฎรสัญจรไปมาไม่ได้
เขต อบต.ไล่โว่ สะพานแขวนเสียหายชำรุด 1 แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก-อาคาร โรงอาหาร ห้องพยาบาล บ้านพักครู ห้องเก็บของ เรือนนอนเด็กบ้านไกลได้รับความเสียหาย ถนนดินขาด 1 สาย ขณะนี้ อบต.ไล่โว่ กำลังดำเร่งเนินการสำรวจ ศาลาวัดเสียหาย 1 หลัง อบต.ไล่โว่ และราษฎรบ้านสะเน่ห์พ่อง ม.1 ต.ไล่โว่ กำลังเร่งดำเนินการซ่อมแซม พร้อมออกสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น และเมื่อวันที่ 31 ก.ค.56 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้เกิดเหตุดินทรุดตัวที่หมู่บ้านมอญ ม.2 ต.หนองลู เจ้าหน้าที่ได้อพยพราษฎรบางครอบครัวออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ด้านนายเอกภพ จันทร์เพ็ญ หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดกาญจนบุรี ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน ในพื้นที่ 2 อำเภอ ประกอบด้วย พื้นที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ทั้งหมด 10 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 7 หมู่ 8 หมู่ 9 และหมู่ 10 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี 6 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 4 หมู่ 5 และหมู่ 6 และตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4
สำหรับอำเภอทองผาภูมิ ประกอบด้วย ตำบลปิล็อค หมู่ 1 ตำบลห้วยเขย่ง หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 7 ตำบลลิ่นถิ่น หมู่ 5 และหมู่ 6 ตำบลหินดาด หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน หมู่ 2 หมู่ 3 และหมู่ 4 ตำบลสหกรณ์นิคม หมู่ 2 และตำบลชะแล หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 4 หมู่ 6 และหมู่ 7 รวมทั้งหมด 7 ตำบล 17 หมู่บ้าน