ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เกย์นที” นำขบวนกลุ่มเชียงใหม่อารยะบุกสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มช.ก่อนฉีกรูปทิ้งต่อหน้าสื่อ โวยตั้งแต่ออกมาร้องเรียนเรื่องอาจารย์ มช.ใช้เรือนไทลื้อเป็นฉากถ่ายภาพเปลือยอนาจาร จนถึงตอนนี้ยังไม่มีผลสรุปจากมหาวิทยาลัยทั้งที่สอบสวนมานานแล้ว แฉไม่มีใครแจ้งข้อมูลจนต้องมาตามเรื่องเอง
นายนที ธีระโรจนพงษ์ พร้อมด้วยกลุ่มเชียงใหม่อารยะ ร่วมกันนำภาพถ่ายชายเปลือยที่ใช้เรือนไทลื้อของแม่อุ้ยตุด ใบสุขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานที่ถ่ายทำมาฉีกทิ้งต่อหน้าสื่อมวลชนในวันนี้ (31 ก.ค.) เพื่อประท้วงมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ต่อกรณีการตรวจสอบการใช้เรือนไทลื้อเป็นสถานที่ถ่ายภาพดังกล่าว ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นายนที และคณะจำนวนประมาณ 10 คนซึ่งเดินทางมาประท้วงที่สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำถังน้ำมันเปล่าขนาดใหญ่มาด้วย พร้อมทั้งประกาศว่าจะนำภาพถ่ายมาเผาทิ้งต่อหน้าสื่อมวลชนภายในวันดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมาดูแลความสงบเรียบร้อยได้เข้าเจรจากับคณะของนายนทีเพื่อไม่ให้ทำการเผารูปภาพ โดยระบุว่าหากมีการเผารูปภาพอาจเข้าข่ายการบุกรุกและสร้างความเสียหาย ทำให้นายนทีและคณะตัดสินใจฉีกรูปภาพทิ้งต่อหน้าสื่อมวลชนแทน แม้จะไม่พอใจที่ถูกห้ามไม่ให้ดำเนินการตามที่ตั้งใจไว้ก็ตาม
ทั้งนี้ นับตั้งแต่นายนทีและคณะเดินทางมาชุมนุมที่สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนกระทั่งฉีกภาพถ่ายทิ้งนั้น ไม่พบว่ามีผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเข้ามาเจรจาพูดคุยกับกลุ่มของนายนทีแต่อย่างใด มีเพียงเจ้าหน้าที่ของสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมบางส่วนที่เข้ามาสอบถามถึงการเดินทางมาของนายนที และคณะเท่านั้น
นายนที และคณะระบุว่า การออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้สืบเนื่องจากนับตั้งแต่ทางกลุ่มและสมาคมไทลื้อจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน กรณีที่มีอาจารย์รายหนึ่งของมหาวิทยาลัยใช้เรือนไทลื้อของแม่อุ้ยตุดเป็นสถานที่ถ่ายภาพชายเปลือยซึ่งส่อไปในทางลามกอนาจาร จนนำไปสู่การทำพิธีสูตรถอนขึดและทำบุญเรือนไทลื้อ เมื่อ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้ชี้แจงในวันดังกล่าวว่า การสืบสวนเกี่ยวกับกรณีการถ่ายรูปชายเปลือยบนเรือนไทลื้อมีความคืบหน้าไปมาก โดยน่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน พ.ค. และหลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยจะจัดให้มีการชี้แจงผลการสอบสวนหรือการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งนั้น
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่วันทำพิธีสูตรถอนขึดมาจนถึงปัจจุบัน ปรากฏว่ายังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับผลการสืบสวนกรณีดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมออกมาให้ทราบแต่อย่างใด โดยกลุ่มเชียงใหม่อารยะต้องมาติดตามสอบถามผลการดำเนินการเอาเอง ซึ่งก็เพิ่งจะได้ทราบข้อมูลในวันนี้ว่าผลการตัดสินออกมาแล้วว่าอาจารย์คนดังกล่าวมีความผิดทางวินัย แต่กลับยังไม่มีการกำหนดมาตรการลงโทษออกมาแต่อย่างใด ทำให้ทางกลุ่มตัดสินใจออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น