ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวไทลื้อในจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับ มช.ประกอบพิธีสูตรถอนขึด “เรือนไทลื้อแม่อุ้ยตุด” นิมนต์พระสงฆ์ 9 รูปประกอบพิธีปัดรังควานหลังเกิดเหตุอาจารย์ มช.ใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพชายเปลือย ด้านมหาวิทยาลัยเผยสอบสวนใกล้แล้วเสร็จคาดรู้ผลสิ้นเดือน ระบุหลังทราบผลมหาวิทยาลัยเตรียมชี้แจงแน่นอน
กลุ่มชาวไทลื้อในจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะจากตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่จากสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกันทำพิธีสูตรถอนขึดและทำบุญเรือนไทลื้อ ในวันนี้ (27 พ.ค.) ณ เรือนไทลื้อแม่อุ้ยตุด สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
โดยในพิธีดังกล่าวได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูปมาประกอบพิธีสูตรถอนขึดและสวดชัยมงคลคาถา พร้อมทั้งรับจตุปัจจัยไทยทานจากกลุ่มชาวไทลื้อและคณะของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งนำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศุภชัย เชื้อรัตนพงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อเป็นการถอนขึดหรือปัดรังควานแก้ไขสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นในเรือนไทลื้อของแม่อุ้ยตุด ใบสุขันธ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดเหตุอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่รายหนึ่งได้ใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นฉากถ่ายภาพชายเปลือย ซึ่งหลายภาพมีลักษณะค่อนข้างอนาจาร และต่อมาภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปทางเครือข่ายสังคมออนไลน์จนกระทั่งเป็นข่าวในสื่อต่างๆ จนสร้างความไม่พอใจให้หลายๆ ฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มลูกหลานชาวไทลื้อ
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มเชียงใหม่อารยะ นำโดยนายนที ธีระโรจนพงษ์ ได้เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อกระทรวงวัฒนธรรมและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะที่นายอนุชิต ชัยถา ผู้ประสานงานสมาคมไทลื้อจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มชาวไทลื้อได้เสนอต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขอทำพิธีสูตรถอนขึดที่เรือนหลังดังกล่าวเพื่อเป็นการถอดถอนเอาสิ่งไม่เป็นมงคลที่เกิดขึ้นบนเรือนหลังดังกล่าวออกไป จนกระทั่งได้ทำพิธีขึ้นในวันนี้
ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศุภชัย เชื้อรัตนพงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนเกี่ยวกับกรณีการถ่ายรูปชายเปลือยบนเรือนไทลื้อว่า คณะกรรมการสอบสวนที่มหาวิทยาลัยได้ตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวทำงานคืบหน้าไปมาก โดยเหลือเพียงการสืบพยานอีกเล็กน้อยเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์และเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้การสอบสวนทั้งหมดจะแล้วเสร็จ และหลังจากนั้นทางมหาวิทยาลัยโดยอธิการบดีอาจจะจัดให้มีการชี้แจงผลการสอบสวนหรือการออกแถลงการณ์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการป้องกันไม่ให้กรณีในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศุภชัยกล่าวว่า มหาวิทยาลัยมีมาตรการในการดูแลสถานที่อยู่แล้ว เพียงแต่เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากอาจารย์ที่เป็นผู้ถ่ายภาพเข้ามาใช้สถานที่โดยไม่ได้ขออนุญาตและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากมองว่าเป็นการทำงานด้านวิชาการ เช่นเดียวกับทางสำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมซึ่งในวันเกิดเหตุผู้บริหารก็ไม่ทราบว่ามีการเข้ามาใช้สถานที่ ดังนั้นคงจะไม่มีการเพิ่มมาตรการใดๆ แต่จะกำชับให้มีการปฏิบัติตามระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ อย่างเข้มงวดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก