“ริมเมย”ยังจมบาดาล/ค้าไทย-พม่าเสียหายยับ

ตาก - ตลาดริมน้ำเมย ชายแดนแม่สอด ยังจมอยู่ใต้น้ำต่อเนื่องร่วมสัปดาห์แล้ว หลังน้ำเมยล้นทะลักไม่หยุด ขณะที่การค้าไทย-พม่า ชะงัก 100% ยอดการค้าหายนับพันล้าน จากปกติที่เคยค้าขายกันไม่น้อยกว่า 3,500-4,000 ล้านต่อเดือน

นายสมศักดิ์ คะวีรัตน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ชายแดนไทย-พม่า อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า ชายแดนแม่สอดถูกน้ำท่วมนานเกือบ 1 อาทิตย์แล้ว ล่าสุดวันนี้(30 ก.ค.56) ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและลดระดับลงบ้าง แต่ย่านตลาดริมเมย ระดับน้ำยังท่วมสูง เนื่องจากแม่น้ำเมย ยันทะลักล้นตลิ่งไม่หยุด

นายสมศักดิ์ บอกอีกว่า น้ำท่วมแม่สอดครั้งนี้ถือว่าหนักสุดในรอบทศวรรษ เพราะโดยปกติแล้วน้ำที่ท่วม อ.แม่สอด จะเป็นน้ำป่าไหลหลาก เพียง 1-2 วัน ก็จะลดลงสู่ระดับปกติ แต่ครั้งนี้เกิดฝนตกต่อเนื่องกันเป็นเวลากว่า 7-8 วัน ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเมย เอ่อล้นเข้าท่วม ผนวกกับน้ำป่าไหลหลากจึงทำให้สถานการณ์หนักกว่าทุกครั้ง

ซึ่งน้ำท่วมคราวนี้ สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจแม่สอด และการค้าชายแดนไทย-พม่านับพันล้านบาทแล้ว เนื่องจากการค้าชายแดนขณะนี้ถือว่าต้องหยุด 100% มาร่วมสัปดาห์ จากเดิมที่เคยมียอดการค้าเฉลี่ยเดือนละ 3,500-4,000 ล้านบาท เพราะไม่สามารถส่งสินค้าจากแม่สอดเข้าเมียวดี หรือจากเมียวดี เข้าแม่สอด ผ่านท่าข้ามริมฝั่งแม่น้ำเมยได้แม้ว่าด่านศุลากรแม่สอดจะเปิดทำการได้แล้วก็ตาม แต่พื้นที่ฝั่งพม่าถูกน้ำท่วม จึงทำให้การขนส่งสินค้าไม่สะดวก

ด้านนายพงษ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลากรแม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า แม้ทางฝั่งริมเมยจะถูกน้ำท่วมสูง แต่ในส่วนของด่านศุลากรแม่สอด ยังคงให้บริการตามปกติ พื้นที่บริการไม่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วม การนำเข้าและส่งออกผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-พม่ายังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ไม่มีการปิดด่านฯ แต่อย่างใด แต่การใช้บริการมีน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้เกิดน้ำท่วมบริเวณชายแดนทั้งฝั่งไทย และพม่า ทำให้การขนส่งสินค้าผ่านท่าข้ามหยุดชะงักเกือบทุกแห่งแล้ว เนื่องจากระดับน้ำเมยขึ้นสูง