อุทัยธานี - ทีมสัตวแพทย์เข้าผ่าพิสูจน์ซากเสือโคร่งตัวเขื่องที่ตายปริศนาคาสวนป่า อ.อ.ป. เบื้องต้นไม่พบรอยกระสุนปืน แต่เจอพิรุธซากแพะต้องสงสัยถูกใช้วางยาล่อเสือ เหตุแมลงวันตอมตายเพียบ ไร้หนอนชอนไช แถมมีนั่งร้านพรานป่าด้วย
เช้าวันนี้ (27 ก.ค.) นายฉลอง นุ๊ยฉิม ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 ได้นำทีมสัตวแพทย์ ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าทำการตรวจสอบซากเสือโคร่งขนาดใหญ่ที่ตายในพื้นที่สวนป่าห้วยระบำ ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ด้วยการผ่าซากเสือหาร่องรอยการถูกทำร้าย หรือกระสุนปืน แต่ยังไม่พบหัวกระสุนปืนในร่างของเสือโคร่ง หรือร่องรอยการทำร้ายด้วยอาวุธ มีเพียงร่องรอยขาหลังด้านซ้ายที่ขาดบริเวณข้อเท้า นายสัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก สรงมงคล หัวทีมสัตวแพทย์ จึงตัดชิ้นเนื้อ และชิ้นส่วนกระเพาะเสือไปตรวจสอบสารพิษตกค้างเพิ่มเติมที่สถาบันสุขภาพสัตว์
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้สำรวจพื้นที่พบซากเสือโคร่ง ในรัศมีประมาณ 400-500 เมตร บนเนินเขา พบร่องรอยซากแพะ คาดว่าถูกเสือล่าจำนวนหลายตัว ทั้งยังพบเปลยวนแขวนบนยอดไม้สูงจากพื้นที่ประมาณ 10 เมตร ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่พรานป่าใช้เป็นนั่งร้านสำหรับดักล่าเสือ โดยการล่อให้ไปกินซากแพะแล้วดักยิง แต่ที่น่าสงสัยคือ แมลงวันที่ไปตอมซากแพะตายลงจำนวนมาก และไม่มีหนอนชอนไช
นายสัตวแพทย์จึงเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อตับแพะไปตรวจสอบสารพิษด้วย เพื่อหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงการตายของเสือโคร่ง เนื่องจากสงสัยว่าพรานป่าอาจใช้วิธีวางยาพิษบนตัวแพะ ให้เสือโคร่งไปกินเพื่อฆ่าเสือโคร่งก็อาจเป็นได้ เหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดมาแล้วในป่าห้วยขาแข้งเมื่อ 3 ปีก่อน โดยคาดว่า จะรู้ผลการตรวจสอบทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ ส่วนซากเสือขณะนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบอีกครั้ง จากนั้นจะทำการทำลายซากเสือต่อไป
