xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอสอบเพื่อนบ้านสมีคำหาผู้ร่วมฟอกเงิน พร้อมตามอายัดรถบริจาคให้ ตร.ทางหลวง (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อุบลราชธานี - เจ้าหน้าที่ดีเอสไอสอบเพื่อนบ้านอดีตพระเณรคำ เชื่อมโยงหาเพื่อนร่วมขบวนการใช้เงินบริจาคแปลงเป็นสินทรัพย์ส่วนตัว พร้อมเข้าอายัดรถ 3 คันของตำรวจทางหลวงอุบลราชธานีที่ได้รับมาจากอดีตพระเณรคำ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23 ก.ค.) พ.ต.ท.พงศ์อิน อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงดีเอสไอ พร้อมพนักงานสอบสวนดีเอสไอ สอบปากคำนางสมศรี (นามสมมติ) ราษฎรบ้านพงสว่าง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ ที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้กันเมื่อประมาณปี 2553-2554

โดยนางสมศรียืนยันว่า เห็นขบวนรถนายวิรพลที่มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจนำเข้ามายังบ้านดังกล่าวหลายครั้ง โดยแต่ละครั้งจะมีขบวนรถติดตามไม่น้อยกว่า 5-6 คัน และจะออกจากบ้านดังกล่าวในช่วงเช้ามืด

นอกจากนี้ยังเคยเห็นมีการลากรถยนต์ยี่ห้อวอลโว่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งระบุเป็นรถที่นายวิรพลขับไปเฉี่ยวชนชาวบ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์บนถนนวารินชำราบ-กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ จนมีคนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 1 ราย มาให้ช่างทำการซ่อมแซมในบ้านหลังดังกล่าว

นอกจากนำรถที่ใช้ขับชนคนจนเสียชีวิตมาซ่อมแล้ว ยังได้รับคำบอกเล่าจากนายหน่อย ไม่ทราบชื่อจริง ซึ่งทำหน้าที่ขับรถให้นายวิรพล เคยนำรถยนต์หรูตระกูลยุโรปจำยี่ห้อไม่ได้ ซึ่งลูกศิษย์นายวิรพลนำไปใช้และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดศรีสะเกษไล่ยิง เพราะสงสัยจะเป็นรถใช้ขนยาเสพติดมาทำสีใหม่เพื่อปกปิดร่องรอยรูกระสุนปืน

สำหรับบ้านดังกล่าวปัจจุบันเจ้าของบ้านได้ให้ผู้เช่ารายใหม่มาอยู่ หลังนายวรพลได้ขนย้ายข้าวของออกไปเมื่อราวปลายปี 2554 ซึ่งการสอบปากคำนางสมศรีครั้งนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอต้องการหาเบาะแสความเชื่อมโยงระหว่างนายวิรพลกับกลุ่มเพื่อนที่คบหากันในสมัยนั้น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับขบวนการฟอกเงินบริจาคที่ประชาชนมอบให้ และใช้เป็นหลักฐานติดตามหาตัวนายหน่อย อดีตคนขับรถที่รู้เห็นเหตุการณ์มาให้ปากคำในฐานะพยานด้วย

ต่อมา พ.ต.ท.พงศ์อิน อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคงดีเอสไอ ได้มาพบ พ.ต.อ.เอกกมล พรชูเกียรติ ผู้กำกับการตำรวจทางหลวงที่ 6 จ.อุบลราชธานี ซึ่งนายวิรพลได้มอบรถให้ใช้งานในราชการกองบังคับการตำรวจทางหลวง ตามโครงการบริการประชาชนจำนวน 3 คัน โดยเป็นรถอีซูซุ มิวเซเว่น สีบรอนซ์เงิน ใช้ลากรถอเนกประสงค์ที่ไม่มีเครื่องยนต์ แต่ภายในตกแต่งเป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จะนำออกใช้งานต่อเมื่อมีอุทกภัย หรือให้บริการประชาชนในเทศกาลสำคัญต่างๆ

อีกคันเป็นรถโตโยต้า รุ่มคัมรี่ สีแดง แต่งแบบรถตำรวจทางหลวง ซึ่งใช้เป็นพาหนะออกให้บริการด้านจราจรเด็กนักเรียนตอนเลิกเรียน โดยรถทั้ง 3 คันยังอยู่ในความครอบครองของกองกำกับการตำรวจทางหลวงที่ 6

พ.ต.อ.เอกกมลเล่าต่อว่า แต่รถทั้ง 3 คันยังไม่ได้รับการโอนสมุดคู่มือทะเบียนรถจากนายวิรพล จึงไม่สามารถนำเข้าสู่ระบบรถที่ได้รับบริจาคมาใช้งานสาธารณกุศลอย่างเป็นทางการ เมื่อเกิดเป็นข่าวกองบังคับการตำรวจทางหลวงสั่งให้ตรวจสอบความถูกต้องของตัวรถ ก็พบว่าเลขเครื่องยนต์ และเลขตัวถังตรงกัน ไม่ได้เป็นรถสวมทะเบียน ปัจจุบันยังคงเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี หากดีเอสไอต้องการรถทั้ง 3 คันก็สามารถทำเรื่องมาขอคืนไปได้ทันที

ด้าน พ.ต.ท.พงศ์อินกล่าวว่า การจะทำอย่างไรกับรถทั้ง 3 คันต้องดูจากจุดประสงค์ของการได้มา เบื้องต้นทราบว่าถูกนำมาใช้ในสาธารณประโยชน์จริง ไม่ได้อยู่ในความครอบครองของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งต้องไปพิจารณาอีกครั้งเพื่อดูว่าหากเงินที่ใช้ซื้อรถทั้ง 3 คันที่มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเงินที่ได้มาโดยไม่ชอบ คณะกรรมการจะมีความเห็นอย่างไร ขณะนี้ได้ให้ทางกองกำกับการตำรวจทางหลวงที่ 6 ดูแลรักษารถทั้ง 3 คันไว้ก่อน

ขณะที่สายวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) ดีเอสไอจะเชิญผู้ทราบเบาะแสการซื้อขายรถมายบัส มูลค่ากว่า 50 ล้านบาทของนายวิรพล มาให้ปากคำแก่ดีเอสไอด้วย

คลิกเพื่อชมคลิป




กำลังโหลดความคิดเห็น