ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เชียงใหม่เลือก “เชียงดาว-ดอยสะเก็ด-ดอยเต่า” ชนะเลิศบริหารจัดการหมอกควัน-เผาในที่โล่งดีเด่นจากทั้ง 3 โซน เหนือ-กลาง-ใต้ ปลัดจังหวัดแจงใช้หลัก 5 ข้อ “คุมเผาพื้นที่ชุมชน-คุมเผาพื้นที่เกษตร-มาตรการคุมหมอกควัน/เผาในที่โล่ง-มาตรการคุมไฟป่า-ประชาสัมพันธ์” เตรียมรับเงินรางวัลพร้อมโล่จาก ผวจ.ปลายเดือนนี้
อำเภอเชียงดาว อำเภอดอยสะเก็ด และอำเภอดอยเต่า ได้รับการตัดสินให้เป็นอำเภอที่มีการบริหารจัดการด้านมลพิษ หมอกควัน และการเผาในที่โล่งดีเด่น ในพื้นที่โซนเหนือ โซนกลาง และโซนใต้ ของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2556 จากผลการตัดสินของคณะกรรมการตัดสินระดับจังหวัด โครงการประเมินศักยภาพอำเภอในการบริหารจัดการมลพิษ หมอกควัน และการเผาในที่โล่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556
คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้จัดการประชุมเพื่อตัดสินผลการดำเนินงานของอำเภอต่างๆ ตามโครงการฟ้าใสไร้มลพิษสรรค์สร้างเศรษฐกิจชุมชน ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 5 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีนายสุรพล สัตยารักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุม
โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะคัดเลือกอำเภอในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับอำเภอในการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และการเผาในที่โล่งอย่างมีประสิทธิภาพในพื้นที่ทั้ง 3 โซน ซึ่งประกอบด้วยโซนเหนือ โซนกลาง และโซนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติและเป็นแบบอย่างแก่อำเภอหรือชุมชนอื่นๆ
สำหรับผลการตัดสินปรากฏว่า ในพื้นที่โซนเหนือ รางวัลชนะเลิศได้แก่อำเภอเชียงดาว รองชนะเลิศได้แก่อำเภอแม่แตง ส่วนรางวัลชมเชยได้แก่อำเภอฝาง และอำเภอพร้าว โซนกลาง รางวัลชนะเลิศได้แก่อำเภอดอยสะเก็ด รองชนะเลิศได้แก่อำเภอแม่วาง รางวัลชมเชยได้แก่อำเภอแม่ริม และอำเภอเมืองเชียงใหม่ ส่วนโซนใต้ รางวัลชนะเลิศได้แก่อำเภอดอยเต่า รองชนะเลิศได้แก่อำเภอดอยหล่อ รางวัลชมเชยได้แก่อำเภออมก๋อย และอำเภอแม่แจ่ม
นายสุรพลกล่าวว่า การพิจารณาของคณะกรรมการจะให้คะแนนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน 5 ประเด็น ซึ่งประกอบด้วย 1. การควบคุมการเผาในพื้นที่ชุมชน โดยพิจารณาถึงการกำหนดมาตรการในการควบคุมการเผาขยะมูลฝอยในอำเภอ มีระบบการจัดการขยะมูลฝอย การลดปริมาณขยะ การจัดเก็บ รวบรวม คัดแยกและนำไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีการจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกต้องโดยไม่มีการเผา
2. การควบคุมการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม โดยพิจารณาถึงการกำหนดมาตรการในการควบคุมการเผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร มีระบบการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างถูกวิธี และไม่มีการเผาในพื้นที่การเกษตร
3. มาตรการจัดการและควบคุมปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง โดยการกำหนดกฎระเบียบ/ข้อกำหนดของอำเภอในการควบคุมปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง ซึ่งมีสาระสำคัญในประเด็นการห้ามเผาในที่โล่ง การกำหนดมาตรการกำกับ ควบคุม ดูแล และสร้างแรงจูงใจในการควบคุมปัญหาหมอกควันจากการเผาในที่โล่ง การติดตามตรวจสอบการใช้กฎระเบียบ/ข้อกำหนดอำเภอเพื่อกำกับ ดูแล เฝ้าระวังภายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และการนำผลการปฏิบัติงานมาวิเคราะห์และประเมินผล เพื่อปรับปรุงกฎระเบียบ/ข้อกำหนดอำเภอให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามความต้องการของอำเภอ
4. มาตรการควบคุมและป้องกันการเกิดไฟป่า โดยการจัดการพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า การสร้างเครือข่ายกับหมู่บ้านใกล้เคียง การส่งเสริมอาชีพในอำเภอเพื่อลดการเผาพื้นที่ป่า และการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการไฟป่า และ
5. รณรงค์ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างการมีส่วนร่วม โดยการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการปลูกฝังจิตสำนึก รวมทั้งการมีส่วนร่วมของอำเภอ
ทั้งนี้ อำเภอที่ได้รับการตัดสินให้ได้รับรางวัลได้รับเงินรางวัลตามลำดับ ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ 20,000 บาท รองชนะเลิศ 10,000 บาท และรางวัลชมเชย 5,000 บาท พร้อมทั้งรับมอบโล่เชิดชูเกียรติจากนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยจะมีพิธีมอบรางวัลให้แก่ทุกอำเภอที่ได้รับรางวัลในการประชุมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเชียงใหม่วันที่ 30 ก.ค.นี้ ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา