ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อธิบดีกรมการข้าวชี้ปัญหาข้าวถุงไทยปนเปื้อนสารพิษเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค เชื่อมั่นข้าวไทยยังครองอันดับ 1 ของโลก ระบุถึงเวลายกเครื่องการใช้สารเคมีในข้าวทั้งระบบตั้งแต่ในแปลงนาไปจนถึงการเก็บรักษา
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวนครราชสีมา หลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 5 ถ.ราชสีมา-โชคชัย ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าวเป็นประธานพิธีเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวและเปิดอาคารข้าวและชาวนา โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมงานกว่า 500 คน
ทั้งนี้เพื่อเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีลดต้นทุนการผลิตของชาวนาไทย ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้ รวมทั้งเพื่อเป็นแหล่งศึกษาข้อมูลความรู้เกี่ยวกับข้าวของจังหวัดนครราชสีมา
นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า นโยบายกรมการข้าวมีเป้าหมายในการจัดตั้งศูนย์ชาวนาขึ้นในศูนย์วิจัยข้าวที่มีอยู่ 27 แห่ง และศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวอีก 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในศูนย์ดังกล่าวชาวนาสามารถเข้าไปใช้บริการได้ เพราะมีทั้งการบริการเครื่องมืออุปกรณ์ โสตทัศนูปกรณ์ เอกสารข้อมูลเกี่ยวกับข้าวทั้งหมด รวมทั้งองค์ความรู้ที่สามารถดึงออกมาจากคอมพิวเตอร์ได้
ขณะนี้กรมการข้าวกำลังสร้างตู้คีออสก์ ต่อไปเกษตรกรชาวนาสามารถเข้ามาค้นหาข้อมูลความรู้จากตู้คีออสก์นี้ได้ และในเร็วๆ นี้จะมีการสร้างห้องสมุดชาวนาขึ้น ฉะนั้นเกษตรกรชาวนาสามารถเดินทางมาติดต่อสอบถามข้อมูลต่างๆ หรือหากมีข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือต่างๆ ให้มาติดต่อได้ที่ศูนย์บริการชาวนาทุกแห่งทั่วประเทศ โดยข้อร้องเรียนต่างๆ หากศูนย์ฯ ในแต่ละแห่งไม่สามารถแก้ไขให้ได้ก็สามารถเชื่อมโยงข้อมูลนี้กับส่วนกลาง ซึ่งจะมีหน่วยกลางพร้อมให้คำตอบแก้ไขปัญหาให้ นอกจากนี้ยังมีหน่วยเคลื่อนที่เร็วของกรมการข้าวอีก 4 หน่วยที่พร้อมจะลงพื้นที่ได้ทั่วประเทศ โดยมีเครื่องมือ อุปกรณ์ ยานพาหนะ นักวิชาการอยู่ในชุดเคลื่อนที่เร็วนี้ด้วย
นายชัยฤทธิ์กล่าวถึงภาพลักษณ์ข้าวไทยหลังมีข่าวการปนเปื้อนสารพิษในข้าวบรรจุถุงว่า กรมการข้าวมีหน้าที่ดูแลเรื่องภาคผลิตเป็นหลัก ฉะนั้นเราเองต้องยอมรับว่าพอมีกระแสข่าวนี้ออกมากรมการข้าวมีความห่วงใยเป็นอย่างมาก เพราะผลกระทบสุดท้ายจะมาที่พี่น้องชาวนา แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วข้าวไทยมีภาพลักษณ์ที่ดี มีชื่อเสียงมานาน ทั่วโลกยอมรับ ข้าวไทยเป็นที่หนึ่งในโลก เป็นความภาคภูมิใจมาช้านาน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิยังเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่ ส่วนข้าวขาวที่ไปทำเป็นข้าวนึ่งในการส่งออกไทยก็ครองอันดับหนึ่งของโลกมาโดยตลอดเช่นกันเพราะเป็นข้าวคุณภาพดีเบอร์หนึ่งของโลก
ฉะนั้น จากกระแสข่าวปัจจุบันคิดว่ามันเป็นกระแสข่าวที่ค่อนข้างคลาดเคลื่อนในบางประการ แต่ในบางประการอาจจะใช่ แต่เป็นความผิดพลาดในทางเทคนิคมากกว่า โดยส่วนตัวมองว่ากรณีที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่เราจะได้ทบทวนการผลิตข้าวทั้งระบบในเรื่องการใช้สารเคมี ส่วนการใช้สารเคมีในนาข้าวนั้นขอยืนยันได้เลยว่าในกระบวนการผลิตข้าวของชาวนาเรามีความปลอดภัย เพราะการผลิตข้าวมีเรื่องของสภาพแวดล้อม เรื่องน้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญการใช้สารเคมีในนาข้าวจะยุติลงเมื่อข้าวออกดอก และหลังจากข้าวออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวใช้เวลาประมาณ 30 วัน จากนั้นนำไปเก็บรักษาอีกเป็นระยะเวลาเกือบ 30 วัน ซึ่งในช่วงเวลา 45-60 วันนี้ จากการวิจัยของกรมการข้าวในเรื่องปัญหาสารเคมีตกค้างในข้าวในแปลงนาไม่พบเลย ตรงนี้กรมการข้าวกล้ายืนยันได้เพราะมีผลงานวิจัยรองรับ
“ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันคิดว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิคมากกว่าและคิดว่าแก้ไขได้ไม่ยาก และจากนี้ไปควรถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยเราจะทบทวนเรื่องกระบวนการใช้สารเคมีทั้งระบบตั้งแต่ในแปลงนาไปจนถึงการเก็บรักษา สิ่งที่เกิดขึ้นเชื่อว่าในเวลาไม่ช้านี้ความจริงจะปรากฏทุกอย่าง และข้าวไทยเรายังมีภาพลักษณ์ที่ดีเป็นที่เชื่อถือของตลาดโลกแน่นอน” นายชัยฤทธิ์กล่าว