ร้อยเอ็ด - ย่าสุดทน เห็นหลานสาวอายุแค่ 9 ขวบถูกลูกชายซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ข่มขืนไม่ไหว เข้าแจ้งความเอาผิดลูกชายในไส้ เผยชั่วยิ่งกว่านั้นยังพาหลานไปให้เจ้าอาวาสวัดใกล้บ้านทำอนาจารซ้ำ เบื้องต้นพ่อเลวยังปากแข็งปฏิเสธข้อกล่าวหา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (15 ก.ค.) พ.ต.ท.วัชรินทร์ สัตยาคุณ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุวัตร บุญวิเศษ พงส.ชำนาญการพิเศษ สภ. สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จับนายพัฒน์พงษ์ เหล็กทอง อายุ 33 ปี ชาวบ้านธวัชดินแดงน้อย หมู่ 8 ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี ขณะเดินอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ไปดำเนินคดีในข้อกล่าวหาข่มขืนลูกสาวของตนเองอายุ 9 ขวบ
มูลเหตุสืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีครูสอนอยู่ในโรงเรียนที่ให้นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้น ม.6 พักอยู่ประจำแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด พา ด.ญ.นิด (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งมีรูปร่างลักษณะอวบโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ “ศูนย์พึ่งได้” อยู่ในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ให้ความช่วยเหลือและป้องกันเด็กและสตรีถูกกดขี่แรงงานและทางเพศ ว่า ครูประจำชั้นเห็น ด.ญ.นิดมีอาการซึมเศร้าผิดปกติ จึงสอบถาม
ด.ญ.นิดเล่าว่าถูกพ่อที่แท้จริงข่มขืนมาหลายครั้งเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และยังถูกพ่อพาไปให้พระซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งกอดรัดร่างกายพร้อมเอามือจับของสงวน และพระยังเอามือของ ด.ญ.นิดไปนวดที่อวัยวะเพศของพระเจ้าอาวาสวัดด้วย
ครูจึงนำเด็กหญิงนิดเข้าร้องเรียนต้องการให้ศูนย์พึ่งได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.นิด และดำเนินการต่อผู้ที่กดขี่ทางเพศด้วย
หลังจากศูนย์พึ่งได้ทราบเหตุแล้วจึงร่วมมือกับศูนย์พิทักษ์เด็กของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ดให้การช่วยเหลือ ด.ญ.นิด โดยเข้าสอบปากคำ นางฉวีวรรณ เหล็กทอง อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นคุณย่าของ ด.ญ.นิด ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ธวัชบุรี
นางฉวีวรรณได้เปิดเผยถึงความระทมทุกข์ใจที่ทนเห็นนายพัฒนพงษ์ ซึ่งเป็นลูกชาย ข่มขืนหลานสาวอายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตนเองไม่ไหว แต่ไม่ทราบว่าจะไปพึ่งใครเพราะครอบครัวมีฐานะยากจนมาก ไม่มีที่ดินทำกิน แม้แต่บ้านพักอาศัย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็มาสร้างให้อยู่อาศัย
ดังนั้นในบ้านหลังเล็กจึงมีตนนอนพักอาศัยพร้อมลูกชายและหลานสาววัย 9 ขวบ จึงเป็นโอกาสให้นายพัฒน์พงษ์ซึ่งเป็นลูกชายใช้เป็นที่ข่มขืนลูกสาวของตนเอง
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ธีรเชษฐ์ กำทรัพย์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ ร.ต.ท.มังกร สิทธิศักดิ์ พงส. (สบ 1) สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ไปตรวจที่หอฉันของวัดแห่งหนึ่งใน ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ ซึ่งเจ้าอาวาสของวัดถูกกล่าวหาว่ากระทำอนาจารเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ
นอกจากนั้น นางฉวีวรรณได้เปิดเผยว่า ตนรู้ว่าลูกชายตนข่มขืนลูกสาวแต่พูดไม่ออกและทนมานาน และไม่รู้ความจริงมาก่อนว่าพาไปให้พระทำอนาจารด้วย โดยมารู้ความจริงภายหลังเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง เมื่อนางฉวีรรณ พร้อมด้วยลูกสาว อายุ 30 ปี และ ด.ญ.นิด พากันเข็นรถไปขอข้าวก้นบาตรที่วัดแห่งหนึ่งอยู่ใน ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ เพื่อนำมากินยังชีพ พอจะกลับบ้านพระก็เรียก ด.ญ.นิดให้อยู่ที่วัดก่อน
เมื่อกลับถึงบ้าน ด.ญ.นิดบอกว่า ขณะที่คุณย่ากับอาหญิงพากันไปเอารถเข็นซึ่งจอดอยู่นอกบริเวณวัด และกลับบ้าน ได้ถูกพระเจ้าอาวาสวัดฉุดแขนเข้าไปมุมหอฉันซึ่งไม่มีคนอยู่ แล้วกอดรัด เอามือจับอวัยวะลับตามร่างกาย นอกจากนั้นพระเจ้าอาวาสวัดยังดึงเอามือของ ด.ญ.นิดไปจับที่อวัยวะเพศของพระเจ้าอาวาสวัดเป็นเวลานานที่หอฉัน ก่อนพระเจ้าอาวาสวัดจะปล่อยตัวออกมา ตนก็ทราบแต่ไม่มีปัญญาที่จะเอาเรื่องกับพระด้วย แต่เนื่องจากฐานะยากจนมากจึงไม่ทราบว่าจะพึ่งใคร
หลังจากเรื่องแดงขึ้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์พึ่งได้ กับเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็กของสำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด จึงพานางฉวีวรรณ เหล็กทอง อายุ 78 ปี เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ธวัชบุรี และ สภ.เสลภูมิ พนักงานสอบสวนของ สภ.ธวัชบุรี กับ สภ.เสลภูมิ จึงสอบปากคำ ด.ญ.นิดต่อหน้าคณะบุคคลสหวิชาชีพ ที่ห้องสอบสวนคดีพิเศษที่สำนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด เสร็จแล้วนำเอา ด.ญ.นิดไปโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ให้แพทย์นิติเวชตรวจหาร่องรอยการถูกข่มขืนปรากฏว่าเป็นความจริง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (15 ก.ค.) พ.ต.ท.วัชรินทร์ สัตยาคุณ รอง ผกก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุวัตร บุญวิเศษ พงส.ชำนาญการพิเศษ สภ. สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด จับนายพัฒน์พงษ์ เหล็กทอง อายุ 33 ปี ชาวบ้านธวัชดินแดงน้อย หมู่ 8 ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี ขณะเดินอยู่บนถนนในหมู่บ้าน ไปดำเนินคดีในข้อกล่าวหาข่มขืนลูกสาวของตนเองอายุ 9 ขวบ
มูลเหตุสืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีครูสอนอยู่ในโรงเรียนที่ให้นักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้น ม.6 พักอยู่ประจำแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด พา ด.ญ.นิด (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 ซึ่งมีรูปร่างลักษณะอวบโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน เข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ “ศูนย์พึ่งได้” อยู่ในโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐที่ให้ความช่วยเหลือและป้องกันเด็กและสตรีถูกกดขี่แรงงานและทางเพศ ว่า ครูประจำชั้นเห็น ด.ญ.นิดมีอาการซึมเศร้าผิดปกติ จึงสอบถาม
ด.ญ.นิดเล่าว่าถูกพ่อที่แท้จริงข่มขืนมาหลายครั้งเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และยังถูกพ่อพาไปให้พระซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งกอดรัดร่างกายพร้อมเอามือจับของสงวน และพระยังเอามือของ ด.ญ.นิดไปนวดที่อวัยวะเพศของพระเจ้าอาวาสวัดด้วย
ครูจึงนำเด็กหญิงนิดเข้าร้องเรียนต้องการให้ศูนย์พึ่งได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ด.ญ.นิด และดำเนินการต่อผู้ที่กดขี่ทางเพศด้วย
หลังจากศูนย์พึ่งได้ทราบเหตุแล้วจึงร่วมมือกับศูนย์พิทักษ์เด็กของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ดให้การช่วยเหลือ ด.ญ.นิด โดยเข้าสอบปากคำ นางฉวีวรรณ เหล็กทอง อายุ 78 ปี ซึ่งเป็นคุณย่าของ ด.ญ.นิด ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.ธวัชบุรี
นางฉวีวรรณได้เปิดเผยถึงความระทมทุกข์ใจที่ทนเห็นนายพัฒนพงษ์ ซึ่งเป็นลูกชาย ข่มขืนหลานสาวอายุ 9 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวที่แท้จริงของตนเองไม่ไหว แต่ไม่ทราบว่าจะไปพึ่งใครเพราะครอบครัวมีฐานะยากจนมาก ไม่มีที่ดินทำกิน แม้แต่บ้านพักอาศัย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ก็มาสร้างให้อยู่อาศัย
ดังนั้นในบ้านหลังเล็กจึงมีตนนอนพักอาศัยพร้อมลูกชายและหลานสาววัย 9 ขวบ จึงเป็นโอกาสให้นายพัฒน์พงษ์ซึ่งเป็นลูกชายใช้เป็นที่ข่มขืนลูกสาวของตนเอง
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ธีรเชษฐ์ กำทรัพย์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และ ร.ต.ท.มังกร สิทธิศักดิ์ พงส. (สบ 1) สภ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ไปตรวจที่หอฉันของวัดแห่งหนึ่งใน ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ ซึ่งเจ้าอาวาสของวัดถูกกล่าวหาว่ากระทำอนาจารเด็กหญิงอายุ 9 ขวบ
นอกจากนั้น นางฉวีวรรณได้เปิดเผยว่า ตนรู้ว่าลูกชายตนข่มขืนลูกสาวแต่พูดไม่ออกและทนมานาน และไม่รู้ความจริงมาก่อนว่าพาไปให้พระทำอนาจารด้วย โดยมารู้ความจริงภายหลังเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง เมื่อนางฉวีรรณ พร้อมด้วยลูกสาว อายุ 30 ปี และ ด.ญ.นิด พากันเข็นรถไปขอข้าวก้นบาตรที่วัดแห่งหนึ่งอยู่ใน ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ เพื่อนำมากินยังชีพ พอจะกลับบ้านพระก็เรียก ด.ญ.นิดให้อยู่ที่วัดก่อน
เมื่อกลับถึงบ้าน ด.ญ.นิดบอกว่า ขณะที่คุณย่ากับอาหญิงพากันไปเอารถเข็นซึ่งจอดอยู่นอกบริเวณวัด และกลับบ้าน ได้ถูกพระเจ้าอาวาสวัดฉุดแขนเข้าไปมุมหอฉันซึ่งไม่มีคนอยู่ แล้วกอดรัด เอามือจับอวัยวะลับตามร่างกาย นอกจากนั้นพระเจ้าอาวาสวัดยังดึงเอามือของ ด.ญ.นิดไปจับที่อวัยวะเพศของพระเจ้าอาวาสวัดเป็นเวลานานที่หอฉัน ก่อนพระเจ้าอาวาสวัดจะปล่อยตัวออกมา ตนก็ทราบแต่ไม่มีปัญญาที่จะเอาเรื่องกับพระด้วย แต่เนื่องจากฐานะยากจนมากจึงไม่ทราบว่าจะพึ่งใคร
หลังจากเรื่องแดงขึ้น ต่อมาเจ้าหน้าที่ศูนย์พึ่งได้ กับเจ้าหน้าที่ศูนย์พิทักษ์เด็กของสำนักงานการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด จึงพานางฉวีวรรณ เหล็กทอง อายุ 78 ปี เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.ธวัชบุรี และ สภ.เสลภูมิ พนักงานสอบสวนของ สภ.ธวัชบุรี กับ สภ.เสลภูมิ จึงสอบปากคำ ด.ญ.นิดต่อหน้าคณะบุคคลสหวิชาชีพ ที่ห้องสอบสวนคดีพิเศษที่สำนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด เสร็จแล้วนำเอา ด.ญ.นิดไปโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ให้แพทย์นิติเวชตรวจหาร่องรอยการถูกข่มขืนปรากฏว่าเป็นความจริง
