เกย์นทีจับมือนายกเล็กช้างเผือกดูตึกสูงแยกภูคำ-พบโรงแรมดังสร้างอาคารประชิดทางเท้า

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “เกย์นที” จับมือนายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือกตรวจอาคารสูงสี่แยกเชียงใหม่ภูคำ หลังสร้างค้างเติ่งแถมคนสงสัยระยะถอยร่นไม่พอ พบการก่อสร้างขออนุญาตถูกต้อง-ระยะร่นเป็นไปตาม กม. แต่ตรวจโรงแรมที่อยู่ติดกันพบต่อเทอร์เรซติดทางเท้าระยะถอยร่นอาจไม่พอ เตรียมตรวจสอบหากพบไม่ตรงตามแบบสั่งรื้อถอนแน่

วันนี้ (10 ก.ค.) นายนที ธีระโรจนพงษ์ แกนนำกลุ่มเชียงใหม่อารยะและแกนนำกลุ่มคนฮักช่างเคี่ยน พร้อมด้วยนายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก พร้อมคณะ เดินทางมายังบริเวณแยกเชียงใหม่ภูคำเพื่อตรวจสอบอาคารสูงที่กำลังก่อสร้างในบริเวณดังกล่าว หลังจากมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารที่อาจมีการกระทำผิดพระราชบัญญัติอาคารสูง

โดยในบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างอาคารสูง 7 ชั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ มีบริษัท พรีเมียมฟูดส์ จำกัด เป็นเจ้าของอาคาร และมีบริษัท ชาราค่อน โปรดักซ์ อินทีเรีย จำกัด เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาอาคารดังกล่าวมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าจากตำแหน่งที่ตั้งซึ่งอยู่ติดกับถนนห้วยแก้วและถนนเลียบคลองชลประทาน อีกทั้งยังเป็นอาคารขนาดใหญ่นั้นอาจมีระยะถอยร่นที่ไม่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้การก่อสร้างอาคารดังกล่าวหยุดชะงักมาแล้วระยะหนึ่ง ก่อนที่จะมีการดำเนินการก่อสร้างต่อ และทำให้นายนทีและกลุ่มเชียงใหม่อารยะออกมาเคลื่อนไหว โดยประสานให้นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือกเข้าตรวจสอบอาคารดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบระยะถอยร่นของอาคารดังกล่าวพบว่ามีระยะถอยร่นเพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด และไม่พบว่ามีการก่อสร้างที่ไม่ตรงตามแบบแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่การก่อสร้างล่าช้านั้นบริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้างเปิดเผยว่ามีการหยุดการก่อสร้างไประยะหนึ่งจริงเนื่องจากเจ้าของอาคารได้สอบถามไปยังอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งทำการสำรวจตลาดเพื่อหาความเหมาะสมว่าจะใช้อาคารดังกล่าวในการดำเนินธุรกิจประเภทใด ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปแล้วจึงได้เริ่มดำเนินการต่ออีกครั้งหนึ่ง โดยที่ผ่านมามีการต่อสัญญาการก่อสร้างออกไปแล้ว 2 ปี และตั้งเป้าที่จะทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2556 นี้

ขณะเดียวกัน คณะของนายคเชน และนายนทียังได้เข้าตรวจสอบอาคารของโรงแรมไอบิส สไตล์ โฮเทล ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอาคารดังกล่าว หลังจากมีข้อมูลว่าอาจมีอาคารของโรงเรมที่มีการก่อสร้างประชิดทางเท้า โดยจากการตรวจสอบพบว่าอาคารหลังใหม่ซึ่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของโรงแรมมีส่วนที่เป็นเทอร์เรซอาจจะมีระยะถอยร่นไม่เพียงพอตามกฎหมายเนื่องจากอยู่ประชิดกับทางเท้าค่อนข้างมาก ซึ่งหลังจากนี้ทางเทศบาลตำบลช้างเผือกจะได้ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับอาคารดังกล่าวต่อไป เพื่อดูว่าการก่อสร้างที่ดำเนินการอยู่นั้นสามารถทำได้หรือไม่

นายคเชน เจียกขจร นายกเทศมนตรีตำบลช้างเผือก กล่าวว่า จากการตรวจสอบอาคารที่ตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกเชียงใหม่ภูคำ พบว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างถูกต้อง ความสูงของอาคารไม่เกิน 23 เมตร เนื่องจากเป็นการขอใบอนุญาตก่อนที่จะมีการประกาศผังเมืองรวม ส่วนกรณีระยะถอยร่นที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะไม่เพียงพอนั้น จากการตรวจสอบพบว่าอาคารมีระยะถอยร่นเกิน 2 เมตรซึ่งเพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลช้างเผือกได้แจ้งให้ผู้ดำเนินการก่อสร้างทำการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยในบริเวณก่อสร้าง ขณะที่ผู้คุมงานก่อสร้างได้แจ้งให้ทราบว่าจะดำเนินการก่อสร้างอาคารดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน

ส่วนกรณีอาคารของโรงแรมไอบิส สไตล์ โฮเทลนั้น พบว่ามีการก่อสร้างอาคารในฝั่งซ้ายของพื้นที่โรงแรม ซึ่งอาคารดังกล่าวยังไม่ได้ยื่นขอใบอนุญาต อ.6 หรือใบอนุญาตใช้อาคาร อีกทั้งยังพบว่าบริเวณเทอร์เรซของอาคารดังกล่าวซึ่งอยู่ประชิดกับทางเท้าด้านถนนเลียบคลองชลประทานน่าจะมีระยะถอยร่นไม่เพียงพอตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบใบอนุญาตก่อสร้าง รวมทั้งวัดระยะถอยร่นของอาคารดังกล่าว หากพบว่าไม่ตรงตามที่มีการอนุญาตไว้หรือมีระยะถอยร่นไม่เพียงพอก็จะแจ้งให้เจ้าของอาคารทำการรื้อถอนส่วนที่รุกล้ำออกต่อไป

นายคเชนกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปัจจุบันมีอาคารสูงที่มีการก่อสร้างในพื้นที่ของเทศบาลตำบลช้างเผือกพบว่ามีปัญหาจำนวน 2 ราย ได้แก่ โครงการเวสต์ วินด์ วิลเลจ ตั้งอยู่ที่ถนนทางหลวงชนบทสาย 4307 ข้างศูนย์ประชุมแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นโครงการอาคารสูงจำนวน 5 อาคาร โดยเป็นการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนชาวไทยกับชาวเกาหลี แต่ในปัจจุบันโครงการดังกล่าวถูกศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวเนื่องจากถูกร้องเรียนว่าไม่ได้ดำเนินการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ส่วนอีกรายคือโครงการทัช ฮิลล์ เพลซ ที่ตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกัน ซึ่งถูกศาลปกครองสั่งระงับการก่อสร้างเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการใช้พื้นที่มากกว่า 4,000 ตามรางเมตร แต่กลับไม่มีการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามกฎหมาย

ด้านนายนที ธีระโรจนพงษ์ แกนนำกลุ่มคนฮักช่างเคี่ยน กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวให้ทางเทศบาลตำบลช้างเผือกทำการตรวจสอบอาคารที่กำลังก่อสร้างอยู่นั้น เนื่องจากอาคารดังกล่าวก่อสร้างมาเป็นเวลานานแต่ยังไม่แล้วเสร็จ กลายเป็นทัศนะอุจาดอยู่บนเส้นทางดังกล่าวซึ่งเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน รวมทั้งยังไม่มีการป้องกันอันตรายเพียงพอซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายจากการก่อสร้างต่อผู้คนที่ผ่านไปมาได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีการกระทำผิด และทางผู้ดำเนินการก่อสร้างจะเร่งทำงานให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ก็ไม่ติดใจอะไร ส่วนกรณีอาคารของโรงแรมไอบิส สไตล์ โฮเทลที่อาจมีระยะถอยร่นไม่พียงพอนั้นเป็นหน้าที่ของเทศบาลตำบลช้างเผือกที่จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยทางกลุ่มอักช่างเคี่ยนจะติดตามความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าวและให้การสนับสนุนการดำเนินการของเทศบาลฯ อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ นายนทีระบุว่าแม้จังหวัดเชียงใหม่จะมีการประกาศผังเมืองรวมจังหวัดเชียงใหม่ออกมาแล้วเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา และในผังเมืองดังกล่าวมีการกำหนดระดับความสูงของอาคารในเขตตัวเมืองเชียงใหม่เอาไว้ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ยังคงมีอาคารอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และได้รับใบอนุญาตก่อสร้างแต่ยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างที่อาจมีความสูงเกินกว่าที่กำหนดหรือมีปัญหาอื่นๆ เฉพาะในพื้นที่ของเทศบาลตำบลช้างเผือกเองคาดว่าจะมีประมาณ 20 ราย เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ชาวเชียงใหม่จะต้องติดตามตรวจสอบและจับตาดูการดำเนินการของเจ้าของอาคารต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ควรคิดว่าเมื่อมีผังเมืองฉบับใหม่แล้วทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างเรียบร้อย เพราะในความเป็นจริงเจ้าของอาคารหลายรายมีวิธีการที่จะหลบเลี่ยงข้อบังคับตามกฎหมายเพื่อก่อสร้างอาคารสูงโดยไม่สนใจถึงผลกระทบที่เกิดแก่ชุมชนในบริเวณใกล้เคียงแต่อย่างใด