ลพบุรี - ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลพบุรี เข้าตรวจที่เกิดเหตุไฟไหม้อาคารชำแหละไก่บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ลพบุรี คาดว่าจะรู้ผลใน 2-3 วันนี้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไร ส่วนค่าเสียหายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ด้านรองผู้ว่าฯลพบุรี สั่ง จนท.ตำรวจเข้าเวรตรวจเข้มตลอดทั้ง 7 วันนี้
เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.50 น. ร.ต.ท.ชาญวุฒิ เรืองจาบ ร้อยเวร สภ.ม่วงค่อม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้ที่บริษัท สหฟาร์ม จำกัด ริมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก เลขที่ 99 หมู่ 8 ต.ห้วยหิน อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี โดยเหตุเกิดที่บริเวณโรงงานผลิตไก่แช่แข็งช่องทางที่ใช้ลำเลียงสินค้า จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานงานรถดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยหิน อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดและเป็นเจ้าของพื้นที่
แต่เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จึงต้องมีการประสานงานขอรถน้ำจาก อบต. และเทศบาลใกล้เคียง ได้มีการระดมรถดับเพลิงเข้ามาในโรงงานอีกกว่า 10 คันเพื่อช่วยกันสกัดเพลิง ซึ่งกำลังลุกไหม้ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปรายมาพอดี ทำให้การดับเพลิงง่ายขึ้นแต่ก็ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบและควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดอาคารโรงงานใกล้เคียงกันได้ในเวลา 04.30 น.ซึ่งอาคารโรงงานอาคารนี้มีการกรุด้วยฉนวนกันความร้อนเพื่อเก็บความเย็น ซึ่งถือเป็นเชื้อไฟอย่างดีจึงทำการการดับเพลิงเป็นไปด้วยความลำบากและถูกไฟไหม้จนเสียหลายเกือบหมดทั้งหลัง
ในเวลาต่อมานายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมนายวีรัส ประเศรษโฐ นายอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ได้เดินทางมาอำนวยความสะดวกในการดับเพลิงและตรวจสถานที่เกิดเหตุ และพร้อมได้สั่งการมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ม่วงค่อม ติดต่อวิทยาการให้เข้าตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ในตอนเช้า เพื่อจะได้ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่
โดยในเบื้องต้น ได้ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือ ไฟฟ้ารัดวงจร กับการวางเพลิง แต่ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่า สาเหตุมาจากอะไรกันแน่ เพราะมีการขู่ว่าจะมีการว่างเพลิงของแรงงานชาวต่างชาติที่ยังไม่ได้รับค่าจ้างมาเป็นระยะอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง แต่เบื้องต้นอาคารดังกล่าวนี้น่าจะถูกทางไฟฟ้าตัดไฟไปแล้วเนื่องจากติดค้างค่าไฟฟ้าอยู่จำนวนมาก
นอกจากนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ยังได้สั่งให้ทางอำเภอ นำรถน้ำเข้าประจำไว้ในโรงงานตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 7 วัน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าเวรตรวจรอบละ 5 นายตลอดทั้ง 7 วันนี้หลังจากที่มีการถอนกำลังเมื่อวานเย็นนี้ก็มาเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นในคืนที่ผ่านมา พร้อมให้กำลังอีกส่วนดูแลแรงงานชาวต่างด้าวทั้งแรงงานชาวพม่าและกัมพูชาอย่างใกล้ชิดว่าทยอยเดินทางกลับจำนวนเท่าใด ส่วนที่ยังไม่กลับก็สั่งงดร้านค้าจำหน่ายสุราให้ในช่วงนี้หากฝ่าฝืนจะมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดทันที
พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจ
ที่เกิดเหตุไฟไหม้อาคารชำแหละไก่
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันนี้ (7 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดลพบุรี ได้ลงพื้นที่บริษัทสหฟาร์มเพื่อเข้าตรวจสอบอาคารโรงชำแหละไก่สด ซึ่งเป็นอาคารที่มีสายพานลำเลี่ยงไก่สดที่ชำแหละแล้วมาเก็บเข้าห้องเย็น ซึ่งได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมาเพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้
จากการเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดภายในจุดที่เกิดเหตุยังหาไม่ได้ว่าต้นเพลิงเกิดขึ้นตรงจุดใดของโรงงานแต่ได้พยายามรวบรมหลักฐานในที่เกิดเหตุให้มากที่สุดว่าในบริเวณโรงงานนั้นเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือมีการวาวเพลิง แต่ในการตรวจสอบเบื้องต้นให้น้ำนักไปในทิศทางของการเกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจรก่อนเพราะในที่เกิดเหตุยังไม่พบอุปกรณ์ในการก่อเหตุที่ใช้ในการเผาอาคาร ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลใน 2-3 วันนี้ว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรในไฟไหม้ครั้งนี้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุหรือเป็นฝีมีคนทำ
สำหรับความเสียหายจากเพลิงไหม้อาคารชำแหละไก่สดของบริษัทสหฟาร์ม ในครั้งนี้ น่าจะอยู่ราวไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท เนื่องจากเครื่องจักรในอาคารเสียหายเป็นจำนวนมากแถมอาคารอาจจะต้องมีการทุบทิ้งเพื่อทำการก่อสร้างใหม่ทั้งหมดเพราะอาจจะได้รับความร้อนจนอาจจะถล่มลงมาได้ นอกจากอาคารแล้วยังพบรถยนต์ 6 ล้อบรรทุกไก่สดส่งขายยังถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายอีก 1 คันด้วยเนื่องจากจอดอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุซึ่งขณะนี้ได้มีการสั่งห้ามบุคคลเข้าไปในจุดเกิดเหตุแล้ว