ศรีสะเกษ - จนท.ดีเอสไอนำ “น.ส. ญ” สาวศรีสะเกษ ภรรยา “ไอ้คำ” พระฉาวชื่อดังตระเวนชี้จุดสถานที่ร่วมหลับนอนกันทุกแห่ง ทั้งรีสอร์ต บ้านเช่า จ.อุบลฯ และกุฏิพระที่พักสงฆ์ป่าช้าบ้านยาง อ.กันทรารมย์ บ้านยาย อ.เมืองศรีสะเกษ ผบ.สำนักคดีความมั่นคงเผยจ่อฟันอาญาพระชื่อดังอีกคดี ฐานกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ขณะอธิบดีดีเอสไอสั่งให้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอลูกเมียพระชื่อดังอีกครั้ง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (6 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และคณะได้นำ น.ส.ญ พร้อมสามี และลูกเดินทางไปที่มาลาคำรีสอร์ต ต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อนำ น.ส.ญ ไปชี้จุดที่เคยมาพักร่วมหลับนอนกับพระฉาวชื่อดัง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งบริเวณที่พักมีการปลูกบ้านเช่าเป็นหลังๆ และ น.ส.ญ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไปชี้จุดที่พระชื่อดังเคยพามาพักร่วมหลับนอนด้วย
จากนั้นจุดที่สอง คณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำ น.ส.ญ ไปที่บ้านเลขที่ 333 หมู่ 1 ถ.โคมทอง ซอยโคมทอง 2 ต.แสนสุข อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเช่าที่พระชื่อดังเคยพา น.ส.ญ มาเช่าพักอยู่ระหว่างที่ น.ส.ญ ท้องก่อนคลอดลูก จนกระทั่งคลอดลูกเสร็จแล้วก็ยังพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ ซึ่งบ้านเช่าแห่งนี้ค่อนข้างหรูหรามากอยู่ในย่านของในเขตหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง
น.ส.ญ บอกว่า ช่วงระหว่างที่มาพักอยู่ตรงนี้ พระชื่อดังจะมาพักอาศัยอยู่ด้วยเป็นประจำ และจะร่วมหลับนอนกับตน แม้กำลังอยู่ในช่วงท้องโตใกล้คลอดก็ตาม ซึ่งตน และพระชื่อดังพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าแห่งนี้เป็นเวลานานประมาณ 1 ปีเศษ โดยพระชื่อดังจะมาพักหลับนอนกับตนครั้งละ 2-3 วัน เป็นประจำมาโดยตลอด หลังจากคลอดลูกชายแล้วจึงได้ย้ายออกไปอยู่อื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า จากนั้นคณะของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำ น.ส.ญ เดินทางไปที่ป่าช้าบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปชี้จุดที่เป็นกุฏิพระ ซึ่ง น.ส.ญ และพระชื่อดังเคยมาร่วมหลับนอนด้วยกัน โดยบริเวณดังกล่าวอยู่ติดกับวัดป่าขันติธรรมบ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้กุฏิดังกล่าวได้ถูกรื้อไปแล้ว เหลือเพียงห้องน้ำที่อยู่ตรงข้ามจุดที่เป็นที่ตั้งของกุฏิเท่านั้น ซึ่ง น.ส.ญ กล่าวว่า ตนกับพระชื่อดังได้เสียกันเป็นครั้งแรกที่กุฏิหลังนี้ และมาร่วมหลับนอนด้วยกันบ่อยครั้ง เนื่องจากพระชื่อดังอยู่เพียงรูปเดียวในป่าช้าแห่งนี้ จากนั้นจึงมีพระรูปอื่นมาอยู่ด้วย
ต่อมา คณะดีเอสไอได้นำ น.ส.ญ เดินทางไปที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านโพธิ์โนนจานอีลอก ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อไปชี้จุดที่ น.ส.ญ มายืนรอเพื่อให้พระชื่อดังขับรถมารับไปร่วมหลับนอนด้วยกัน ซึ่ง น.ส.หญิง บอกว่า ส่วนมากแล้วจะร่วมหลับนอนกันบนรถ และตามป่าละเมาะที่เป็นมุมมืดหลบเลี่ยงไม่ให้ผู้ใดพบเห็น
จุดต่อไปคณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้นำ น.ส.ญ และลูกไปที่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.ญ พักอาศัยอยู่กับยาย น.ส.ญ ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปพบกับยาย รวมทั้งสอบปากคำเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ามีความเป็นมาอย่างไร โดย พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ ได้นำเอารูปของพระชื่อดังมาให้ยายของ น.ส.ญ มาดู ซึ่งยายของ น.ส.ญ แจ้งว่าเป็นพระชื่อดังที่เป็นสามีของ น.ส.ญ จริง น.ส.ญ กล่าวว่า ช่วงระหว่างที่ตนกับพระชื่อดังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันนั้น ยายและญาติพี่น้องทุกคนทราบเรื่องนี้ และไม่มีใครว่าอะไร นื่องจากพระชื่อดังเคยได้ให้การดูแลญาติพี่น้องทุกคน จึงปล่อยให้มีความสัมพันธ์กันจนมีลูกชายออกมา 1 คน
ทางด้าน นางเผย สีหะวงษ์ อายุ 82 ปี ยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 3 บ้านโนนจาน ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งยายของ น.ส.ญ กล่าวว่าการที่พระชื่อดังมาคบกันฉันชู้สาวกับหลานสาวของตนนั้นตนทราบเรื่องมาตลอด แต่ไม่ได้ห้ามปราม ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าพระชื่อดังกับหลานสาวของตนรักกันจึงปล่อยเลยตามเลย และหลังจากที่ น.ส.ญ คลอดลูกก็ได้ย้ายไปเช่าบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ พระชื่อดังได้ให้ตนไปเลี้ยงลูกให้อยู่ที่บ้านเช่าในกรุงเทพฯ ด้วย ดยเมื่อพระชื่อดังเข้ามาหาหลานสาวของตน และพักอาศัยอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ พระชื่อดังก็นอนอยู่กับหลานสาวของตนฉันสามีภรรยาอีกห้องหนึ่ง ส่วนตนพักอยู่อีกห้องหนึ่ง พร้อมทั้งเลี้ยงดูลูกของพระชื่อดังด้วย
โดยพระชื่อดัง อกว่า จะให้เงินทองแก่ตน แต่ว่าตนไม่เคยได้รับเงินเลย พระชื่อดังมีแต่โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของหลานสาวตน ส่วนตนไม่เคยได้เงินจากพระชื่อดังแม้แต่บาทเดียว โดยตนได้ไปเลี้ยงลูกให้พระชื่อดังนานประมาณ 1 ปี จากนั้นได้กลับมาอยู่ที่บ้าน
ทางด้าน พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า จากคำให้การของ น.ส.ญ ทำให้ทราบข้อมูลว่าได้มีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่อายุ 14 ปี ซึ่งกรณีนี้เป็นการเข้าข่ายกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไม่ว่าเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม มีโทษจำคุก 4-20 ปี และปรับ 8,000-40,000 บาท แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความเป็นธรรมทุกฝ่ายจะต้องรอการสอบสวนข้อเท็จจริงจากพระชื่อดังก่อนว่า จะให้การเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
ในสัปดาห์หน้านี้ อธิบดีดีเอสไอได้สั่งการให้มีการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยจะทำการตรวจดีเอ็นเอแม่กับลูก ซึ่งอ้างว่าเป็นเมีย และลูกของพระชื่อดังอีกครั้งเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน และต้องตรวจพิสูจน์ดีเอ็นอีของพระชื่อดังด้วย เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ี