ศรีสะเกษ - ลูกศิษย์เณรคำเตรียมนำ 3 ข้อหลัก และ 6 ข้อย่อย เข้าเสนอต่อมหาเถรสมาคม โต้ลั่นเณรคำไม่ผิดพระธรรมวินัยแม้แต่ข้อเดียว เผยหากทางวัดไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีการทำลายกันอย่างต่อเนื่อง จะมีการทำหนังสือถวายฎีกาต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อที่จะขอให้พระองค์ได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และมีพระเมตาเพื่อที่จะได้ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา และองค์หลวงปู่เณรคำ ต่อไป
วันนี้ (30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พักสงฆ์ขันติธรรม หรือวัดป่าขันติธรรม ตำบลยาง อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุขุม วงประสิทธิ์ ประธานองค์กรเครือข่ายบ้านวิมุตติธรรม ศิษย์หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มิถุนายน 2556 พระครูวิสุทธิญาณ เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ได้ให้ พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ได้เข้ามาปรึกษาหารือกับหลวงพ่อปานขาว ซึ่งถือเป็นรักษาการประธานที่พักสงฆ์ขันติธรรม
จากการปรึกษาหารือกันแล้ว พระครูวัชรสิทธิคุณ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ฝ่ายธรรมยุต ก็รับข้อเสนอของหลวงพ่อปานขาว และให้ตนนำข้อเสนอดังกล่าวไปยังมหาเถรสมาคม ซึ่งข้อเสนอทั้งหมดมีอยู่ 3 ข้อหลัก และอีก 6 ข้อย่อย
นายสุขุม กล่าวต่อไปว่า สำหรับรายละเอียดมี ดังนี้ 1.ตลอดระยะเวลาที่เกิดข่าว และเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ปรากฏข้อใดที่หลวงปู่เณรคำ ขัดต่อพระธรรมวินัย ซึ่งก็ขอให้ทางเถรสมาคมได้ออกมาแถลงการณ์ชี้แจงว่า หลวงปู่เณรคำ ผิดพระธรรมวินัยข้อใด เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน และประชาชน ได้เข้าใจ
2.ตนจะรับหน้าที่ดำเนินการหาความจริงในเรื่องที่มีภาพหลวงปู่เณรคำถูกตัดต่อนอนอยู่กับผู้หญิง เพื่อจะนำมาชี้แจงต่อประชาชน ซึ่งจริงๆ ในเรื่องนี้มีการยืนยันจากฝ่ายเทคนิคแล้วว่า ภาพนั้นเป็นภาพถูกตัดต่อจริง
3.ในเรื่องจัดตั้งวัด ทางคณะกรรมการหมู่บ้านจะรีบรวบรวมข้อมูล และประสานงานขอจัดตั้งที่แห่งนี้ให้เป็นวัดอย่างเป็นทางการ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงแนะนำในการดำเนินการขอจัดตั้งสร้างวัด 3.1 ในเรื่องทรัพย์สินของวัดทั้งหมด ทางเราจะมีการดำเนินการรวบรวมทรัพย์สินทั้งหมดให้มีการทำบัญชี ทั้งบัญชีรับเก่า ทั้งบัญชีรับใหม่ ทั้งหนี้สินที่เกิดขึ้น เพื่อรวบรวมให้เป็นตัวบัญชีโดยสมบูรณ์ให้เร็วที่สุด
นายสุขุม กล่าวอีกว่า ข้อ 3.2 เราจะดำเนินการกับผู้ที่ปล่อยภาพอันไม่เหมาะสมของหลวงปู่เณรคำ ตามกฎหมาย โดยจะมีการเชิญนักกฎหมายระดับโลก และนักกฎหมายที่มีจรรยาบรรณมาดำเนินการกอบกู้ชื่อเสียงของหลวงปู่เณรคำกลับมา 3.3 เราจะดำเนินการให้มีการนำมูลนิธรรมมาดำเนินการให้ถูกต้อง เพื่อรองรับการทรัพย์สินของวัดที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทรัพย์สินตรงนี้ตกเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินอย่างแท้จริง ซึ่งเราจะใช้เพียงดอกผลเท่านั้น
3.4 เราจะดำเนินการจัดตั้งกองทุนที่จะทำสื่อธรรมะ หรือกองทุนกอบกู้ชื่อเสียงหลวงปู่เณรคำ ในรูปแบบบ้านวิมุตติธรรม เพื่อให้ธรรมะของหลวงปู่ได้มีการเผยแพร่ไปสู่ทุกหลังคาเรือน ทุกๆจังหวัด ในประเทศ และต่างประเทศ 3.5 ถ้าวันที่ 5 ธ.ค. นี้ มีการดำเนินการก่อตั้งวัด และมูลนิธิเสร็จสมบูรณ์ และจนไม่มีเรื่องมลทินแล้ว ทางเราจะมีการกราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตจัดงานในวันที่ 5 ธันวาคม และจะถือโอกาสฉลององค์พระมรกตจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในวันนั้นด้วย
และข้อที่ 3.6 หากว่าหลวงปู่เณรคำ และทางวัดไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือมีการทำลายกันอย่างต่อเนื่อง เราก็จะมีการทำหนังสือถวายฎีกาต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อที่จะขอให้พระองค์ได้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และมีพระเมตา เพื่อที่จะได้ปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา และองค์หลวงปู่เณรคำต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่หลวงปู่เณรคำ ไม่ได้กลับมาตามคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการปรึกษาหารือกันอย่างไรบ้าง นายสุขุม กล่าวว่า ในเบื้องต้นทางเราได้มีการพูดคุยปรึกษาหารือกับทางรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ผิดต่อพระราชบัญญัติแต่อย่างใดในเรื่องของกฏหมาย โดยก็ขึ้นอยู่กับภารกิจของหลวงปู่เณรคำที่นั้นด้วย
วันนี้ต้องบอกได้ว่าท่านยังบริสุทธิ์ ทั้งหมดยังเป็นเพียงข้อกล่าวหาเท่านั้นเอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเองก็พูดว่าวันนี้หลังจากดูข้อมูลทั้งหมดแล้ว ยังไม่ปรากฏว่า หลวงปู่เณรคำ นั้นผิดแต่ประการใด ซึ่งก็ถือว่ายังคงเป็นผู้ที่บริสุทธิ์อยู่
นายสุขุม กล่าวต่อไปว่า ในส่วนที่หลวงปู่เณรคำยังไม่กลับมา นื่องจากเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องได้รับการคลี่คลายก่อน เพราะท่านเป็นพระที่มีประชาชน ญาติโยม เคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก วันนี้ท่านจะมาต้องจัดการปัญหาต่างๆ ให้เสร็จสิ้นก่อน เพื่อให้ท่านกลับมาอย่างสง่างาม
นอกจากนี้ ที่ท่านยังกลับมาไม่ได้ ตอนนี้ท่านกำลังปฏิบัติภารกิจที่สำคัญอยู่ และท่านก็คิดว่าภารกิจนั้นสำคัญกว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ภารกิจนั้นก็คือ การรวบรวมนิกายของพระพุทธศาสนาทุกนิกายที่อยู่ในประเทศยุโรปให้รวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งท่านไม่ได้เดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นเหล่านี้เลย
ในส่วนที่ว่าท่านจะกลับมาตอนไหนนั้น เมื่อคืนวันที่ 29 มิ.ย.ท่านก็กลับมาแล้ว แต่ท่านกลับมาด้วยเสียงโดยการโฟนอินมาพูดคุย และให้กำลังใจญาติโยม ส่วนตัวท่านจะกลับมาตอนไหนนั้นต้องรออีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนที่ท่านโฟนอินมาเมื่อคืน ท่านได้พูดถึงการชี้แจงในเรื่องต่างๆ หรือไม นายสุขุม กล่าวว่า ในเรื่องนี้ท่านพูดว่าท่านจะไม่มีการแถลงการณ์ ท่านจะไม่มีชี้แจง เนื่องจากว่าท่านไม่ได้ผิดอะไร และถ้าท่านจะแถลง หรือท่านจะแสดงธรรมนั้น ท่านจะแสดงธรรมกับคนที่มีคุณธรรมเท่านั้น ซึ่งวันนี้ต้องกลับมาถามสังคมไทยว่าเรากำลังจะสึกพระที่ไม่มีความผิด โดยเชื่อตามกระแสข่าวเท่านั้นหรือ โดยไม่มีหลักฐานทางกฎหมาย และไม่ผิดพระธรรมวินัยได้อย่างไรเพียงเพื่อจะสึกพระองค์เดียวเท่านั้นหรือ