xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งความ 4 โรงสีโคราชหลังพบข้าวสารหายอื้อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตำรวจแจ้งความ 4 โรงสีโคราช ตัวเลขข้าวสารหายอื้อ เผยผลการตรวจโรงสี และโกดังข้าวรวม 56 แห่ง ส่วนใหญ่เรียบร้อยดี ระบุทั้ง 4 โรงสีพบข้าวเปลือกตัวเลขโอเวอร์โหลดกว่าบัญชี ด้านรองผู้ว่าฯ ระบุเป็นความคลาดเคลื่อนของตัวเลข ยันข้าวโคราชยังอยู่ครบไม่ล่องหน

วันนี้ (28 มิ.ย) นายชยาวุธ จันทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะรองประธานอนุกรรมการตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิตปี 255/56 จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีข้าว และโกดังในจังหวัดนครราชสีมาทุกแห่งของชุดปฏิบัติการพิเศษ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นตัวหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาพรวมผลการตรวจสอบไม่พบปัญหาข้าวหายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ มีเพียงการแจ้งบัญชีข้าวสาร และข้าวเปลือกไม่ตรงกับตัวเลขที่เจ้าหน้าที่มีอยู่ในมือเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีการแจ้งตัวเลขคลาดเคลื่อนของทาง อคส.เอง โดยข้าวไม่ได้หายไปจากโรงสี หรือโกดังแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะช่วงนี้มีข้าวเข้าสู่โรงสีจำนวนมาก จึงทำให้โรงสีแปรสภาพไม่ทัน ส่งผลให้ตัวเลขข้าวเปลือก และข้าวสารคลาดเคลื่อนไปจากบัญชีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอยู่ และลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นทุกแห่งทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่ที่ จ.นครราชสีมา เท่านั้น

ด้าน พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมคณะอนุกรรมกรรมการตรวจสอบระดับจังหวัด ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีและโกดังรวม 56 แห่ง แบ่งเป็นโรงสี 17 แห่ง และโกดังอีก 39 แห่ง เมื่อวานนี้ พบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ เนื่องจากมีโรงสีจำนวน 4 แห่ง ใน พื้นที่ อ.สูงเนิน อ.เมือง. อ.ปักธงชัย และ อ.เสิงสาง ตัวเลขข้าวสารไม่ตรงกับบัญชีตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมีน้อยกว่ามาก โดยเฉพาะโรงสีใน อ.ปักธงชัย ข้าวสารหายไปเกือบ 4,000 ตัน แต่เมื่อดูตัวเลขข้าวเปลือกแล้วกลับพบว่าตัวเลขโอเวอร์โหลด หรือมีตัวเลขสูงกว่าบัญชีตรวจสอบมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกข้อมูลไว้พร้อมแจ้งความไว้เป็นหลักฐานก่อนส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ

พ.ต.อ.วณัฐ กล่าวว่า เมื่อพบความผิดปกติที่เกิดขึ้น ชุดปฏิบัติการที่ออกตรวจสอบก็ต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบ และดำเนินการต่อไป ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นไม่ใช่ข้าวสูญหายแต่อย่างใด แต่อาจจะมีการแปรสภาพจากข้าวเปลือกเป็นข้าวสารไม่ทันระยะเวลาจึงทำให้ตัวเลขแตกต่างกัน

เจ้าหน้าที่ อคส.พยายามแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เกลี่ยตัวเลขให้ตรงกันด้วยการคำนวณการแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉะนั้นเราจึงต้องรายงานให้ตรงกับสิ่งที่เป็นจริง ไม่ใช่ไปคิดที่ตัวเลขเฉลี่ยของข้าวเปลือกมาเป็นข้าวสาร

ทั้งนี้ โดยภาพรวมการตรวจสอบโรงสี และโกดังข้าวไม่พบความผิดปกติในการทุจริตเกิดขึ้นแต่อย่างใด และขณะนี้ได้รายงานผลสรุปทั้งหมดส่งรายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเรียบร้อยแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น