ตาก - กรมฝนหลวงยังต้องเร่งทำฝนเทียมเหนือเขื่อนใหญ่ภาคเหนือ วางเป้าหมายเติมน้ำเหนือเขื่อนภูมิพลให้ได้ 80% เตรียมรับมือภัยแล้งปีหน้า หลังล่าสุดเหลือน้ำระบายได้แค่ 5.41% เท่านั้น
วันนี้ (21 มิ.ย.) นายวราวุธ ขันติยานันท์ ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการฝนหลวง กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าชมฐานปฏิบัติการฝนหลวงตาก ณ สนามบินตาก พร้อมกับกล่าวว่า กรมฝนหลวงได้ปรับยุทธศาสตร์แผนการปฏิบัติการฝนหลวงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัญหามากขึ้น ทั้งให้การช่วยเหลือพื้นที่เกษตรช่วงฤดูฝน ป้องกันการเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง และการเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ของประเทศ รวมทั้งอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต่างๆ
โดยการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำทั้ง 5 ภาค ได้แก่ ภาคกลาง ที่ จ.นครสวรรค์ ภาคเหนือ ที่ จ.เชียงใหม่ ภาคตะวันออกที่ จ.ระยอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี
สำหรับภารกิจของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือจะรับผิดชอบในการบริหารจัดการน้ำในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ครอบคลุม 15 จังหวัด ทั้งภาคเหนือตอนบน และภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำของเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา และเขื่อนแควน้อย
ในวันนี้เขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำเหลืออยู่เพียง 32.11 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำที่สามารถระบายได้เพียง 522.69 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 5.41 เปอร์เซ็นต์ โดยตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการทำฝนหลวงเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างถึง 19 ล้านลูกบาศก์เมตร แล้ว ซึ่งทางกรมฝนหลวงมีเป้าหมายจะเติมน้ำให้เขื่อนภูมิพลให้ได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งในปีหน้า