ชาวนากรุงเก่าครวญลดราคาจำนำข้าวทำไปก็ไม่คุ้มทุน นายกฯ ชาวนานัดแถลงพรุ่งนี้

พระนครศรีอยุธยา - นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยนัดแถลงพรุ่งนี้ หลังรัฐบาลปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 56 จาก 15,000 บาทต่อตัน เหลือ 12,000 บาทต่อตัน ชี้รับไม่ได้ทำให้ชาวนาได้รับผลกระทบ ไม่คุ้มทุน ขณะที่ชาวนาอยุธยาโวยค่าแรงก็ไม่คุ้ม มีแต่เสมอตัว หากตัดความชื้นออกก็คงไม่เหลืออะไร

หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) มีมติปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 56 ลงเหลือ 12,000 บาท/ตัน จาก 15,000 บาท/ตัน และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.56 พร้อมจำกัดวงเงินการรับซื้อข้าวจากเกษตรกรไว้ที่ไม่เกินรายละ 5 แสนบาทด้วย ส่งผลกระทบชาวนาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นอย่างมาก เพราะชาวนาส่วนใหญ่ต้องเช่านาทำกัน

นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวถึงกรณีนี้ว่า วันนี้ (19 มิ.ย.) ตนได้เรียกประชุมสมาชิก พร้อมแถลงข่าวกำหนดเคลื่อนไหวหลังที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษมีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เสนอให้ปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 2556 ลงเหลือ 12,000 บาท/ตัน จาก 15,000 บาท/ตัน และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.56 พร้อมทั้งตั้งเพดานการรับจำนำข้าวต่อรายไม่เกินรายละ 5 แสนบาท

ทั้งนี้ สมาคมฯ จะมีการประชุมร่วมกับชาวนาใน 20 จังหวัดภาคกลาง และจะแถลงข่าวพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) หากรัฐบาลยังยึดจำนำข้าวที่ 12,000 บาทต่อตัน จะชุมนุมใหญ่แน่นอน เพราะเห็นว่าการปรับราคาจำนำข้าวนาปรังปี 2556 เหลือ 12,000 บาท/ตัน เป็นสิ่งที่ชาวนารับไม่ได้ จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการตามนโยบายเดิม หรือหากจะปรับเปลี่ยนควรเริ่มในฤดูกาลหน้า เพื่อจะได้มีเวลาหารือและทำความเข้าใจกันกับทุกฝ่าย

“ผมรับไม่ได้ เนื่องจากถ้าค่าความชื้นไม่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนดก็จะไม่ได้ราคาตามที่กำหนด คือ ราคาข้าวจะตกลงมาอีก ซึ่งจะทำให้ชาวนาไม่เหลืออะไรเลย อีกทั้งโรงสีเตรียมจะรับจำนำข้าวได้ลดลงเหลือประมาณ 40 ตันต่อวัน แต่ชาวนาในตอนนี้บางพื้นที่เก็บเกี่ยวได้ถึง 80-90 ตันต่อวัน อาจจะทำให้เกิดปัญหาเนื่องจากข้าวที่เกี่ยวจะต้องนำไปเก็บอาจเกิดความชื้นขึ้นได้ จนทำให้ราคาตกลงกว่าเดิมจึงคิดว่าจะไม่คุ้มกับการลงทุนต่อไร่ของชาวนา โดยมีการเตรียมแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 11.00 น.ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว รวมทั้งกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวของสมาชิกต่อไป

ด้านนางอำพร ไวยทรัพย์ อายุ 47 ปี ชาวนาในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ต้นทุนการทำนาของตนอยู่ประมาณ 6,000 บาทต่อไร ซึ่งยังไม่รวมค่าแรง ซึ่งถ้ารัฐบาลลดการรับจำนำข้าวเหลือตันละ 12,000 บาท ชาวนาคงไม่เหลืออะไรก็คงทำนาเสมอตัว เพราะหากตัดความชื้นออกไปก็คงเหลือเพียง 8-9 พันบาท ชาวนาคงอยู่ไม่ได้อย่างแน่นอน

นายสุภกร ไตรยศ อายุ 28 ปี ชาวนาในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตนทำนากว่า 100 ไร่ ส่วนรัฐบาลจะรับจำนำข้าวราคาเท่าไรก็ได้ แต่เมื่อชาวนาขายข้าวแล้วจะต้องไม่เงินต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท หากต่ำกว่าหมื่นคงอยู่กันไม่ได้ เพราะจะไม่เหลืออะไรเลย อีกทั้งยังต้องแบบรับภาระค่าใช่จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งค่าข้าวปูลก ค่าแรงงาน คงไม่พออย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม การรับจำนวนข้าวราคาจะออกมาอย่างไรชาวนาขอแค่ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท จึงจะสามารถอยู่ได้แม้จะไม่มากก็ตาม