บุรีรัมย์ - นศ.ปี 3 หลักสูตรนิติศาสตร์และสาธารณสุข วิทยาลัยเฉลิมกาญจนาบุรีรัมย์หวั่นถูกลอยแพรวมตัวประท้วงค้านไม่ให้ยุบหลักสูตรย้ายไปเรียนที่ศรีสะเกษ ชี้ผลักภาระให้นักศึกษาทั้งที่เหลืออีกเทอมเดียวจะจบ จี้อธิการบดีทบทวนคำสั่ง หากไม่ได้ผลขู่บุกร้องผู้ว่าฯ และ สกอ. ด้านรองอธิการบดีแจงประสบปัญหาด้านงบฯ บริหารจัดการ
วันนี้ (18 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักศึกษาระดับปริญญาตรี ปี 3 รุ่นปี 53, 54 กว่า 40 คน ที่เรียนหลักสูตรนิติศาสตร์และหลักสูตรสาธารณสุข วิทยาลัยเฉลิมกาญจนาบุรีรัมย์ นำโดย ด.ต.ตระกูล กมุทมาศ นักศึกษาปีที่ 3 หลักสูตรนิติศาสตร์วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ได้รวมตัวถือป้ายที่มีข้อความว่า “คำสั่งของวิทยาลัยอยู่ภายใต้ความชอบธรรมหรือไม่” , “อย่าปล่อยลอยแพพวกเรา Say no ศรีสะเกษ” , “เหลือแค่ปีสุดท้ายไม่กี่วิชาก็จบแล้ว อย่าทำลายอนาคตพวกเราด้วยการย้ายเลย” ยืนประท้วงอยู่ที่บริเวณใต้อาคารภายในวิทยาลัย
ทั้งนี้เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม พร้อมคัดค้านไม่ให้ทางวิทยาลัยยุบหลักสูตรนิติศาสตร์และสาธารณสุขที่บุรีรัมย์ แล้วให้ไปเรียนรวมที่วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีระยะทางห่างไกลไม่สะดวกในการเดินทาง ทั้งยังเป็นการผลักภาระให้นักศึกษาเพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอยู่ค่ากินที่เพิ่มขึ้น เพราะนักศึกษาส่วนมากมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีฐานะยากจน อีกทั้งยังมีครอบครัวที่ต้องดูแล หากให้เดินทางไปเรียนที่ จ.ศรีสะเกษจะสร้างความเดือดร้อนแก่นักศึกษาเป็นอย่างมาก
กรณีดังกล่าวจึงอยากเรียกร้องให้อธิการบดี หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้พิจารณาทบทวนยกเลิกคำสั่งดังกล่าว แล้วเปิดทั้งสองหลักสูตรให้นักศึกษาได้เรียนตามปกติ เพราะเหลือเวลาอีกเพียงเทอมเดียวก็จะจบการศึกษาแล้ว แต่หากการเรียกร้องครั้งนี้ทางวิทยาลัยฯ ยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้อง นักศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อนก็จะรวมตัวกันบุกประท้วงขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ต่อไป
ด้าน ด.ต.ตระกูล กมุทมาศ นักศึกษาปีที่ 3 หลักสูตรนิติศาสตร์วิทยาลัยเฉลิมกาญจนา ซึ่งเป็นตัวแทนนักศึกษาที่เดือดร้อน กล่าวว่า ที่ผ่านมานักศึกษาได้ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติเงื่อนไขของทางวิทยาลัยมาโดยตลอด เพราะหวังว่าเมื่อจบการศึกษาจะได้นำความรู้ไปปรับใช้ในการทำงานและประกอบอาชีพตามที่ตั้งใจไว้ แต่เหลือเวลาอีกเพียงเทอมเดียวทางวิทยาลัยฯ กลับจะยุบทั้งสองหลักสูตรและปล่อยลอยแพนักศึกษาให้ไปเรียนที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีระยะทางห่างไกล เป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายให้แก่นักศึกษา
จึงอยากเรียกร้องให้ทางวิทยาลัยฯ ได้ยกเลิกการยุบรวมและเปิดสอนที่บุรีรัมย์ตามปกติ เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้แก่นักศึกษาด้วย แต่หากเปิดเทอมในสัปดาห์หน้า ทางวิทยาลัยฯ ยังไม่มีคำตอบหรือไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องก็จะรวมตัวกันร้องผู้ว่าฯ และ สกอ.เพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป
ขณะที่ รศ.ดร.อนันต์ชัย พงศ์สุวรรณ รองอธิการบดีวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาบุรีรัมย์ ได้กล่าวภายหลังเป็นตัวแทนมารับหนังสือร้องจากนักศึกษาว่า จะนำเรื่องเสนออธิการบดีรับทราบ เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือนักศึกษาดังกล่าว ทั้งนี้ยอมรับว่าระยะหลังวิทยาลัยประสบปัญหาเรื่องงบประมาณในการบริหารจัดการเนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนงบจากภาครัฐเลย อีกทั้งยังปล่อยให้มีการเปิดมหาวิทยาลัยของรัฐขึ้นมาแข่งขันหลายแห่งจนทำให้จำนวนนักศึกษาลดลง จึงอยากฝากถึงรัฐบาลด้วยว่าให้หันมาดูแลวิทยาลัยเอกชนบ้างเพราะถือเป็นสถานศึกษาอีกทางเลือกหนึ่ง ก่อนที่จะอยู่ไม่ได้และต้องปิดตัวลงในที่สุด
