อุดรธานี - แฟรี่บริดจ์ โฮลดิ้ง ทุ่ม 1,500 ล้านบาท ผุด “โครงการ 168 แพลตินั่ม” ศูนย์ค้าส่งสินค้าแฟชั่นครบวงจรทันสมัยที่สุดในภาคอีสาน ที่ จ.อุดรธานี ชูคอนเซ็ปต์ “ลงทุนคุ้มค่า ร้านค้าทำเลทอง” เล็งเจาะกลุ่มลูกค้าแฟชั่นทั้งชาวไทย ลาว เวียดนาม และจีน รับการเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คาดเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาสแรกปี 57
น.ส.ปัญจพร พัฒนพิฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แฟรี่บริดจ์ โฮลดิ้ง จำกัด ในฐานะผู้พัฒนาโครงการ 168 แพลตินั่ม เปิดเผยว่า โครงการ 168 แพลตินั่ม ได้พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “ลงทุนคุ้มค่า ร้านค้าทำเลทอง” The Wholesales Destination ศูนย์การค้าส่งแฟชั่นชั้นนำกว่า 1,000 ร้านค้า ทันสมัย และครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของภาคอีสาน พัฒนาบนสุดยอดทำเลศักยภาพที่คุ้มค่าแก่การลงทุนของ จ.อุดรธานี มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท
พื้นที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มผู้ประกอบการค้าส่ง และค้าปลีก ทั้งใน จ.อุดรธานี และใกล้เคียง เช่น จ.ขอนแก่น จ.หนองคาย จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร ฯลฯ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการจากกรุงเทพฯ ซึ่งโครงการ 168 แพลตินั่ม จะเป็นศูนย์กลางเข้ามาช่วยผู้ประกอบการค้าปลีกสามารถซื้อสินค้าสะดวกยิ่งขึ้น ไม่ต้องมาซื้อที่กรุงเทพฯ ตลอดจนรองรับกลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป. ลาว รวมทั้งประเทศใกล้เคียง เช่น เวียดนาม จีน ที่มีอยู่มากรับความเจริญเติบโตในภูมิภาคอาเซียนด้วย
โครงการ 168 แพลตินั่ม ตั้งอยู่บนพื้นที่ 44 ไร่ ติดถนนบุญยาหาร ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ใกล้สนามบินเพียง 3.5 กิโลเมตร สามารถเดินทางสู่จังหวัดโดยรอบได้สะดวก พัฒนาเป็นศูนย์ค้าส่งมีพื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 52,000 ตร.ม. มีร้านค้าถึง 1,168 ร้านค้า จัดโซนเป็นสัดส่วน แบ่งออกเป็นเฟสแรก จำนวน 679 ร้านค้า และเฟส 2 จำนวน 489 ร้านค้า ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 9 ตร.ม.-13.50 ตร.ม. โดยแบ่งเป็นส่วนพื้นที่เป็นประเภทขายสิทธิการเช่า (เซ้งระยะยาว) 10 ปี, 20 ปี และ 30 ปี
ประกอบด้วย โซนแฟชั่นหญิง, แฟชั่นชาย, แฟชั่นเด็ก, เครื่องประดับ, เครื่องหนัง และพื้นที่สำหรับเช่าระยะสั้น ประกอบด้วยพื้นที่ พลาซ่า, รีเทล และโซนปรับอากาศ ครบครันด้วยศูนย์รวมธนาคาร ศูนย์อาหาร ห้องน้ำหรูระดับดีลักซ์ ถนนภายในโครงการกว้างถึง 10 เมตร และที่จอดรถรองรับกว่า 600 คัน
ทั้งได้ออกแบบตกแต่งภายในที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ด้วยการใช้สัญลักษณ์แห่งเอเชีย 4 โซน ได้แก่ ตลาดเอเชีย, ตลาดสยาม, ตลาดลาว และตลาดจีน โดยการก่อสร้างล่าสุด มีความคืบหน้าแล้วประมาณ 40% คาดว่าจะเสร็จในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และพร้อมเปิดให้บริการภายในไตรมาสแรกของปี 2557
น.ส.ปัญจพร กล่าวต่อว่า จากการศึกษาตลาดของ จ.อุดรธานี ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่าเป็นอีกจังหวัดหนึ่งในภาคอีสานที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ มีการเติบโตสูงทั้งการเป็นศูนย์กลางการค้า และบริการของภาคอีสานตอนเหนือ เป็นศูนย์กลางลอจิสติกส์ของภาคอีสาน และกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อสูงจำนวนมากทั้งใน จ.อุดรธานี และจังหวัดใกล้เคียง ตลอกจนกลุ่มลูกค้าที่มาจาก สปป.ลาว เวียดนาม และจีน เป็นต้นทั้งยังเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพรองรับการเปิดประชาคมอาเซียน (AEC) ในอีก 2 ปีข้างหน้า
การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะเอื้อให้ธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีกขยายตลาดภายในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการขยายตัวของการค้าตามแนวชายแดนที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปัจจุบัน การค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านมีการค้าขายผ่านแนวชายแดนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของการค้าทั้งหมด จึงคาดการณ์ว่าธุรกิจค้าส่งของไทยตามแนวชายแดนจะมีโอกาสขยายตัวอีกมากหลังเปิด AEC มั่นใจว่าโครงการ 168 แพลตินั่ม จะเป็นศูนย์ค้าส่งที่เติบโตอย่างยั่งยืน และนำความเจริญความคุ้มค่าด้านการลงทุนสู่กลุ่มผู้ประกอบการในระยะยาว
ด้านนายชนะ นันทจันทูล กรรมการผู้จัดการบริษัท เซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้แอฟฟิลิเอทส์(ประเทศไทย) จำกัด บริษัทที่ปรึกษาโครงการและบริหารด้านการตลาด กล่าวว่า โครงการ 168 แพลตินั่ม ได้เปิดจองพื้นที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มิถุนายนศกนี้พร้อมด้วยโปรโมชันพิเศษ จำนวน 10 ยูนิต สำหรับผู้จอง และวางเงินทำสัญญาพื้นที่เช่าเซ็ง 30 ปี ด้วยส่วนลดพิเศษ 100,000 บาท
ผลเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการช่วงกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับดีจากโรงงานผู้ผลิตแฟชั่นเสื้อผ้า, ร้านค้าส่ง ค้าปลีก และเจ้าของกิจการต่างๆ ทั้งใน จ.อุดรธานี จ.ขอนแก่น และกรุงเทพฯ ขณะนี้มียอดจองในแฟสที่ 1 แล้วกว่า 80% คาดว่าจะปิดการขายได้ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้