อุบลราชธานี - เขื่อนปากมูลไม่ระบายน้ำ ปลานิลในกระชังแม่น้ำมูลตายกว่า 100 กระชัง มูลค่าความเสียหายเกือบ 9 ล้านบาท ประมงเชื่อมาจากฝนตกหนัก น้ำร้อนเป็นน้ำเย็นฉับพลัน ขณะชาวบ้านผู้เลี้ยงโต้ เชื่อมาจากเขื่อนปากมูลไม่เปิดประตูระบายน้ำทำให้น้ำเสีย เผยปีนี้ปลาตาย 3 ครั้ง เสียหายกว่า 25 ล้านบาท
วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชัง บ้านดงบัง ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง และบ้านแพง ต.สว่างวีระวงศ์ อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่คนละฝั่งแม่น้ำมูลว่า มีปลาในกระชังลอยตายแบบยกกระชังกว่า 100 กระชัง โดยเป็นปลาใหญ่ใกล้เก็บขาย น้ำหนักเฉลี่ย 8-9 ขีด คิดเป็นความเสียหายเกือบ 9 ล้านบาท
โดยผู้เลี้ยงปลากลุ่มนี้มีการติดตั้งระบบฟอกอากาศ ติดตั้งกังหันตีน้ำสร้างออกซิเจน แต่ปลาก็ยังตาย รวมทั้งมีปลาธรรมชาติลอยตายจำนวนมากด้วย เชื่อสาเหตุไม่ใช่เพราะอากาศเปลี่ยนอย่างเดียว แต่มีผลมาจากการที่เขื่อนปากมูลไม่เปิดประตูระบายน้ำทำให้น้ำในแม่น้ำเน่าเสีย
ขณะที่นายดรุณศักดิ์ ใจเกื้อ หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมง สำนักงานประมงจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมาสภาพอากาศร้อน เมื่อมีฝนตกลงมาอย่างหนักช่วง 1-2 วันอุณหภูมิน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันจากน้ำร้อนเป็นน้ำเย็น ประกอบกับท้องฟ้ามีเมฆมืดครื้มทำให้พืชใต้น้ำไม่สังเคราะห์แสง น้ำจึงมีออกซิเจนน้อย ปลาที่เป็นสัตว์เลือดเย็น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงด้านอุณหภูมิเพียง 1-2 องศาเซลเซียสก็ตายแล้ว
ทั้งนี้ สำหรับปลาที่ตายนั้นเกษตรกรต้องนำไปทำปลาร้า ปลาส้ม และปลาแดดเดียว นำปลาที่ตายใหม่ใส่ลังน้ำแข็งไปเร่ขายราคาถูกในหมู่บ้านใกล้เคียง โดยปีนี้ปลานิลในกระชังตายแล้วรวม 3 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ต่อมาวันที่ 7 มิถุนายน วันนี้เป็นครั้งที่ 3 ทำให้เกษตรกรสูญเงินไปแล้วกว่า 25 ล้านบาท ขณะที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐยังไม่มีแต่อย่างใด