นิคมฯแหลมฉบังร่วมท้องถิ่น จัดโครงการขยะทองคำแก้ปัญหาขยะล้นเมือง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ร่วมกับสถานประกอบการ และสภาอุตสาหกรรม จัดโครงการขยะทองคำแก้ปัญหาขยะล้นเมือง และพัฒนาสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ อยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นประธานเปิดโครงการ “ขยะทองคำ” โดยการนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ร่วมกับเทศบาลนครแหลมฉบัง ผู้ประกอบการในนิคม ชุมชน และสถานที่ศึกษาใกล้เคียง เพื่อให้ทุกคนมีจิตสำนึกคัดแยกขยะ รักษาสิ่งแวดล้อม และลดปริมาณขยะ พร้อมทั้งนำขยะกลับมาใช้ใหม่เพื่อให้เกิดความคุ้มค้าในการใช้ทรัพยากร

นายปรีชา จรเณร ผู้อำนวยการ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง กล่าวว่า การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้นำแนวคิดพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบระบบอุตสาหกรรม ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งยังให้ความสำคัญกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยพัฒนาชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรม เพี่อให้สามารถแข่งขันในระดับสากล มีความทันสมัย ได้รับความมั่นใจจากทุกภาคส่วน

โดยเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศมีเป้าหมายสูงสุด คือ อุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนด้วยความผาสุก และยั่งยืน จึงได้มีการส่งเสริมแนวความคิด Eco Symbiosis โดยคำนึงถึงการนำของเสีย วัตถุเหลือใช้ พลังงานจากโรงงานหนึ่งมาเป็นวัตถุดิบของอีกโรงงานหนึ่ง ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้พลังงาน และลดปริมาณของเสียให้เหลือน้อยที่สุด และพยายามปล่อยน้ำเสียให้เหลือน้อยที่สุด

สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จึงได้ดำเนินโครงการขยะทองคำ เพื่อนำขยะจากสิ่งของเหลือใช้ในชุมชน ซึ่งนับวันจะเมีปริมาณมากขึ้นตามความเติบโตของเศรษฐกิจ สังคม และอีก 12 ปีข้างหน้า ธนาคารโลกประเมินไว้ว่า จำนวนประชากรจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 4,300 ล้านคน แต่ละคนจะสร้างขยะวันละ 1.42 กิโลกรัม รวมแล้ว 200 ล้านตันต่อปี ซึ่งคาดว่าต้นทุนการจัดการขยะจะเพิ่มขึ้นจากปีละ 205,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 375,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ หากไม่เร่งกำจัด หรือแก้ไขให้ถูกวิธี จะส่งกระทบอย่างหนักต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม และต่อเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย ซึ่งขยะทองคำ คือ กิจกรรรมหนึ่งของคนแหลมฉบัง ที่พร้อมจะช่วยกันแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะเยาวชนจากสถานศึกษา ให้รู้จักการคัดแยกขยะ เข้าใจในระบบรีไซเคิล ทำให้เกิดการหมุนเวียนของระบบการเงินในครอบครัวโดยการนำขยะมาแลกซื้อสินค้า