เชียงราย - คณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่าเปิดโต๊ะหารือร่วมครั้งที่ 75 ไทยชงพม่าร่วมแก้ปัญหายาเสพติด ตามหาตัวนายทุนแสบ หลังแจ้งทหารจับคนไทยเรียกค่าไถ่ พบกองกำลังว้าแสบเตรียมสร้างเขื่อนกั้นน้ำกกก่อนไหลเข้าไทย ด้านพม่าจี้ไทยเคลียร์ปัญหาชนกลุ่มน้อยลอบวางระเบิดชายแดนเชียงดาว
วันนี้ (11 มิ.ย.) คณะกรรมการประสานงานชายแดนไทย-พม่า หรือทีบีซี (Traditional Border Committee : TBC) ได้จัดการประชุมครั้งที่ 75 ที่ห้องประชุมโรงแรมสานมุนอาข่า จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยฝ่ายไทยมี พ.อ.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง เป็นประธาน ขณะที่ฝ่ายพม่ามี พ.ท.อ่อง เมี้ยนอู ผบ.กองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 359 เป็นประธาน
ที่ประชุมหารือถึงกรณีชาวพม่าเชื้อสายไทยใหญ่ จากบ้านปางก้ำก่อ ประเทศพม่า หลบหนีเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางกุงจ่อ บ้านหลักแต่ง ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากทางการพม่าเข้าปราบปรามชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ ซึ่งทางการไทยได้ควบคุมดูแลผู้อพยพ 38 คน และจะจัดส่งคนกลุ่มนี้กลับหากสถานการณ์ในพม่ากลับสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือกันถึงปัญหายาเสพติด หลังกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) 335 อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปะทะกับขบวนการค้ายาเสพติด จนทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามถูกวิสามัญฆาตรกรรม 3 ราย และหลบหนีไปได้ 2 คน เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ฝ่ายไทยขอให้ทางการพม่าช่วยติดตามจับกุมคนที่หลบหนีมาดำเนินคดีในฝั่งไทยด้วย
พร้อมกันนั้นฝ่ายไทยยังแจ้งต่อที่ประชุมว่า ปัจจุบันทางการไทยทราบว่ากองกำลังว้าได้วางแผนจะก่อสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำกกบริเวณบ้านโป่งตอง ประเทศพม่า ห่างจากช่องทางตามลำน้ำกกของประเทศไทยประมาณ 15 กิโลเมตร ซึ่งหากมีการก่อสร้างก็จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะแม่น้ำสายนี้ไหลเข้าสู่ประเทศไทยตั้งแต่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ผ่านอีกหลายอำเภอของ จ.เชียงราย ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ทางการเกษตรและอื่นๆ หากมีเขื่อนจะทำให้ระดับน้ำถูกควบคุมไม่เป็นไปตามธรรมชาติ อาจไม่เพียงพอต่อการใช้ประโยชน์ ดังนั้นจึงขอให้ฝ่ายพม่าตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากโครงการดังกล่าวเป็นจริง ก็ขอให้ชะลอเพื่อศึกษาผลกระทบร่วมกันทั้งสองประเทศด้วย
นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือฝ่ายพม่าร่วมโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนเพื่อสร้างความสัมพันธ์และพัฒนาร่วมกัน จึงขอให้ทางการพม่าอำนวยความสะดวก สาเหตุที่ต้องขอความร่วมมือเพราะวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมามีคนไทย 5 คนเดินทางข้ามจาก อ.แม่สาย ไป จ.ท่าขี้เหล็ก เข้าพักที่โรงแรมแม่โขงริเวอร์ 9 ชั้น บ้านสันทรายลื้อ มีนายทุนชาวว้าเป็นผู้อำนวยความสะดวก
ต่อมานายทุนคนดังกล่าวกลับแจ้งให้ทหารว้าจับคนไทย และเรียกค่าไถ่ 6 ล้านบาท กระทั่งวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาคนไทยทั้งหมดได้หลบหนีกลับมายังประเทศไทย โดยเดินเท้าผ่านทางบ้านแม่โจ๊ก ตรงกันข้ามบ้านหัวแม่คำ อ.แม่ฟ้าหลวง ทางการไทยจึงอยากให้ติดตามหาตัวนายทุนมาดำเนินคดีข้อหาเรียกค่าไถ่ และกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ไร้อิสรภาพ ผิดหลักตามสิทธิมนุษยชนสากล ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกตามโครงการหมู่บ้านดังกล่าวด้วย
ด้านฝ่ายพม่าระบุว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมมีชนกลุ่มน้อยที่อยู่ตรงข้าม อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ลอบวางระเบิดตลอดแนวชายแดน ตรงกันข้ามช่องทางเมืองนะ ช่องทางหนองเขียว และช่องทางหนองกะลาง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว ทำให้ชาวเมืองนะที่นำรถไถไปปรับหน้าดินเตรียมเพาะปลูกเหยียบระเบิดจนรถเสียหาย ดังนั้นฝ่ายพม่าจึงขอความร่วมมือฝ่ายไทยให้ช่วยเหลือตรวจสอบกับระเบิด และช่วยกันเก็บกู้ในอนาคตด้วย