กาญจนบุรี - “นายกเล็กตำบลลุ่มสุ่ม” โต้กลับ “กำนันลุ่มสุ่ม” และ “สารวัตรกำนันตำบลลุ่มสุ่ม” ที่นำมวลชนออกมาขับไล่ “ปลัดหญิง อบต.ลุ่มสุ่ม” แฉเหตุเพราะปลัดฯ ไปขวางผลประโยชน์แอบอ้างนำที่ป่าไม้ขอออกใบ ภบท.5 กว่า 1 พันไร่ แต่ถูกปฏิเสธเพราะเป็นพื้นที่ป่าสงวนฯ
ผู้สื่อข่าวรายจากกรณีที่ นายสมศักดิ์ สุริยะวงษ์ กำนันตำบลลุ่มสุ่ม และนายชัยนาท หอมกลิ่นระย้า สารวัตรกำนันตำบลลุ่มสุ่ม แกนนำ พร้อมชาวบ้านประมาณ 50 คนเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้มีคำสั่งย้าย น.ส.จินตนา อินทร์สวาท ปลัด อบต.ลุ่มสุ่ม ออกนอกพื้นที่โดยด่วน โดยมีประชาชนถือป้ายประท้วง โดยให้เหตุผลว่า ไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน โดยมีนายยุทธพล พลชัย หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนา รักษาราชการแทนท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า จะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ และจะยื่นหนังสือร้องเรียนให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ และหากทางจังหวัดไม่รีบดำเนินการตามข้อเรียกร้อง พวกตนจะยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีในเร็ววันนี้ต่อไป สำหรับการยื่นหนังสือมีขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ (4 มิ.ย.) นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) ด.ต.ช่วง นาคทองคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่ม ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตามที่นายสมศักดิ์ สุริยะวงษ์ กำนันตำบลลุ่มสุ่ม นำมวลชนไปยื่นหนังหนังสือเพื่อกดดันผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้มีคำสั่งย้าย น.ส.จินตนา อินทร์สวาท ปลัด อบต.ลุ่มสุ่ม โดยให้เหตุผลว่า เป็นปลัดแต่ไม่บริการประชาชน หรือเหตุผลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวินัยของข้าราชการประจำ ตนขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า มูลเหตุของการกล่าวหาปลัด อบต. เหตุผลที่กล่าวมาไม่น่าจะเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนไม่ดี
แต่เหตุแท้จริงแล้ว การขับไล่ปลัด อบต.น่าจะเกิดจาก เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนมาแสดงความประสงค์ยื่นเอกสารแสดงรายการที่ดินเพื่อขอชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท.5) ต่อเจ้าพนักงานประเมินที่มี น.ส.จินตนา อินทร์สวาท เป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านสามัคคีธรรม ต.ลุ่มสุ่ม จำนวน 6 แปลงรวมเป็นที่ดิน 1,612 ไร่ ซึ่ง อบต.ลุ่มสุ่ม ได้สอบถามไปยังหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ว่า ที่ดินทั้ง 6 แปลง รวม 1,612 ไร่ ดังกล่าว เป็นที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือเป็นที่ดินที่อยู่ในความดูแลของรัฐหรือไม่ สาเหตุที่สอบถามก็เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ก็ทราบความจริงว่า ที่ดินทั้ง 6 แปลง ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย ที่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ ไม่พบสภาพเสื่อมโทรม หรือผ่านการทำกินในที่ดินดังกล่าวมาก่อน ประชาชน หรือกลุ่มนายทุนไม่สามารถนำไปยื่นเอกสารขอเสียภาษีบำรุงท้องที่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นสมบัติของชาติ
“ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ปลัด อบต.ลุ่มสุ่ม ไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามคำเรียกร้องของประชาชนกลุ่มนี้ได้ ทำให้ผู้ยื่นขอชำระภาษีเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะทำให้กลุ่มบุคคลเหล่าเสียผลประโยชน์เป็นเงินจำนวนมหาศาล จึงทำทุกวิถีทางที่จะให้หา น.ส.จินตนา ออกจากพื้นที่ไปให้ได้ โดยจะนำมวลชนไปเดินขบวนขับไล่ที่หน้าศาลากลางหวังทำทำให้ปลัด อบต.เกิดความอับอาย” ด.ต.ช่วง กล่าว
ในส่วนเหตุผลที่ถูกกล่าวหาว่า น.ส.จินตนา ปฏิบัติราชการไม่เป็นไปตามระเบียบของ อบต.นั้น ด.ต.ช่วง กล่าวว่า ตนในฐานะเป็นผู้บริหารฝ่ายการเมืองจะเร่งดำเนินการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว จากนั้นจะรายงานให้นายอำเภอไทรโยค และผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทราบตามขั้นตอนต่อไป และเชื่อว่าปลัด อบต.จะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายจากกรณีที่ นายสมศักดิ์ สุริยะวงษ์ กำนันตำบลลุ่มสุ่ม และนายชัยนาท หอมกลิ่นระย้า สารวัตรกำนันตำบลลุ่มสุ่ม แกนนำ พร้อมชาวบ้านประมาณ 50 คนเดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ขอให้มีคำสั่งย้าย น.ส.จินตนา อินทร์สวาท ปลัด อบต.ลุ่มสุ่ม ออกนอกพื้นที่โดยด่วน โดยมีประชาชนถือป้ายประท้วง โดยให้เหตุผลว่า ไม่พอใจในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน โดยมีนายยุทธพล พลชัย หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนา รักษาราชการแทนท้องถิ่นจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า จะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามระเบียบของทางราชการ และจะยื่นหนังสือร้องเรียนให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการ และหากทางจังหวัดไม่รีบดำเนินการตามข้อเรียกร้อง พวกตนจะยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีในเร็ววันนี้ต่อไป สำหรับการยื่นหนังสือมีขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ (4 มิ.ย.) นั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) ด.ต.ช่วง นาคทองคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลลุ่มสุ่ม ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตามที่นายสมศักดิ์ สุริยะวงษ์ กำนันตำบลลุ่มสุ่ม นำมวลชนไปยื่นหนังหนังสือเพื่อกดดันผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ให้มีคำสั่งย้าย น.ส.จินตนา อินทร์สวาท ปลัด อบต.ลุ่มสุ่ม โดยให้เหตุผลว่า เป็นปลัดแต่ไม่บริการประชาชน หรือเหตุผลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับวินัยของข้าราชการประจำ ตนขอชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า มูลเหตุของการกล่าวหาปลัด อบต. เหตุผลที่กล่าวมาไม่น่าจะเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนไม่ดี
แต่เหตุแท้จริงแล้ว การขับไล่ปลัด อบต.น่าจะเกิดจาก เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีประชาชนมาแสดงความประสงค์ยื่นเอกสารแสดงรายการที่ดินเพื่อขอชำระภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท.5) ต่อเจ้าพนักงานประเมินที่มี น.ส.จินตนา อินทร์สวาท เป็นผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะที่ดินในพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านสามัคคีธรรม ต.ลุ่มสุ่ม จำนวน 6 แปลงรวมเป็นที่ดิน 1,612 ไร่ ซึ่ง อบต.ลุ่มสุ่ม ได้สอบถามไปยังหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ว่า ที่ดินทั้ง 6 แปลง รวม 1,612 ไร่ ดังกล่าว เป็นที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ หรือเป็นที่ดินที่อยู่ในความดูแลของรัฐหรือไม่ สาเหตุที่สอบถามก็เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ
และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ก็ทราบความจริงว่า ที่ดินทั้ง 6 แปลง ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่ และป่าแม่น้ำน้อย ที่ยังคงสภาพที่สมบูรณ์ ไม่พบสภาพเสื่อมโทรม หรือผ่านการทำกินในที่ดินดังกล่าวมาก่อน ประชาชน หรือกลุ่มนายทุนไม่สามารถนำไปยื่นเอกสารขอเสียภาษีบำรุงท้องที่ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะเป็นสมบัติของชาติ
“ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ปลัด อบต.ลุ่มสุ่ม ไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามคำเรียกร้องของประชาชนกลุ่มนี้ได้ ทำให้ผู้ยื่นขอชำระภาษีเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะทำให้กลุ่มบุคคลเหล่าเสียผลประโยชน์เป็นเงินจำนวนมหาศาล จึงทำทุกวิถีทางที่จะให้หา น.ส.จินตนา ออกจากพื้นที่ไปให้ได้ โดยจะนำมวลชนไปเดินขบวนขับไล่ที่หน้าศาลากลางหวังทำทำให้ปลัด อบต.เกิดความอับอาย” ด.ต.ช่วง กล่าว
ในส่วนเหตุผลที่ถูกกล่าวหาว่า น.ส.จินตนา ปฏิบัติราชการไม่เป็นไปตามระเบียบของ อบต.นั้น ด.ต.ช่วง กล่าวว่า ตนในฐานะเป็นผู้บริหารฝ่ายการเมืองจะเร่งดำเนินการสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็ว จากนั้นจะรายงานให้นายอำเภอไทรโยค และผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ทราบตามขั้นตอนต่อไป และเชื่อว่าปลัด อบต.จะออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงให้สังคมได้รับทราบต่อไป
