เชียงราย - เจ้าหน้าที่ระดับสูง ป.ป.ส. 4 ประเทศลุ่มน้ำโขงตอนบน ทั้งไทย พม่า ลาว และจีนจับมือเดินหน้า “แผนปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัย” ร่วมล้างยาเสพติดต่อ แม้ “หน่อคำ” ถูกศาลจีนสั่งประหารแล้ว
วันนี้ (3 มิ.ย.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประเมินผล “แผนปฏิบัติการร่วม แม่น้ำโขงปลอดภัย” ณ โรงแรมอิมพีเรียล โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล รีสอร์ท บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีผู้อำนวยการ ป.ป.ส.จาก 4 ประเทศเข้าร่วม คือ นางสิริพร วนาวิริยะ ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ไทย นายหลาน เว่ยฮอง ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ประเทศจีน พ.ต.ท.อินพง ชานทวงสา รองผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ของ สปป.ลาว และ พ.ต.อ.มินต์ อู ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ประเทศพม่า
โดยตัวแทน ป.ป.ส.ไทยแจ้งว่าเป็นการจัดประชุมเพื่อร่วมกันปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และทำลายเครือข่ายยาเสพติด หลังจากได้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านยาเสพติดไปแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 ที่กรุงเทพฯ และประเทศไทยได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค
จากนั้นไทยได้ดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดลุ่มแม่น้ำโขงตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555 ถึงมิถุนายน 2556 หรือระยะเวลา 1 ปี สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ 1,100 คน เป็นคดี 804 คดี ของกลางยาเสพติดกว่า 3 ตัน
และแม้ว่านายหน่อคำ อดีตหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธที่ปล้นเรือจีน 2 ลำ และฆ่าลูกเรือชาวจีน 13 คนบริเวณสามเหลี่ยมทองคำฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า เมื่อปลายปี 2553 จะถูกตัดสินประหารชีวิตที่มณฑลยูนนาน ประเทศจีน และขบวนการก็ถูกทางการพม่าทลายไปแล้วก็ตาม แต่ทั้ง 4 ประเทศจะยังคงร่วมกันแก้ปัญหายาเสพติดต่อไป
นางสิริพรกล่าวด้วยว่า สถานการณ์ยาเสพติดในภูมิภาคนี้ยังคงขยายตัว และรุนแรงขึ้น ทำให้การแก้ปัญหาไม่สามารถทำได้ตามลำพังประเทศเดียว แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกประเทศ ซึ่งกรณีของประเทศจีนถือว่ามีบทบาทสูงและให้ความสำคัญ จึงมีการเสนอแผนปฎิบัติการสืบสวนร่วมต่อต้านเครือข่ายการค้ายาเสพติดลุ่มน้ำโขง โดยใช้ชื่อว่า “ปฏิบัติการร่วมแม่น้ำโขงปลอดภัย” โดยจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้น พิสูจน์ทราบข่ายงานด้านยาเสพติด ติดตามจับกุมผู้หลบหนี โดยอาศัยกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศให้เข้มข้นมากขึ้น