เชียงราย - กองกำลังลาดตระเวนร่วมในลำน้ำโขงของลาวและจีน บุกตรวจยึดเรือสินค้ากลางน้ำโขง พบขนยาบ้าล็อตมหึมาหนักถึง 500 กก. เผยหลังสิ้น “หน่อคำ” มี “จะสีโป-มูเซอ ขึ้นคุมพื้นที่แทน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จนถึงขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวและจีนยังคงจัดเรือลาดตระเวนตามลำแม่น้ำโขงเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับเรือสินค้า และปราบปรามกองกำลังติดอาวุธที่ยังคงมีอยู่ลุ่มน้ำโขง โดยเฉพาะตั้งแต่ท่าเรือสบหรวย ประเทศพม่า จนถึงสามเหลี่ยมทองคำติด อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตรอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่านายหน่อคำ หัวหน้ากองกำลังติดอาวุธและลูกสมุนที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญปล้นเรือจีน 2 ลำ ฆ่าลูกเรือกว่า 13 ศพบริเวณสามเหลี่ยมทองคำเมื่อปลายปี 2554 จะถูกศาลจีนตัดสินลงโทษประหารชีวิตไปแล้วก็ตาม
ล่าสุดมีรายงานว่า ทางกองกำลังชายแดนของ สปป.ลาว ร่วมกับกองกำลังเจ้าหน้าที่ของจีนที่นำเรือออกลาดตระเวนบริเวณเส้นทางระหว่างเมืองเมืองเชียงกก แขวงหลวงน้ำทา ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำ ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 178 กิโลเมตร ได้เข้าตรวจยึดเรือสินค้าลำหนึ่งที่แล่นกลางแม่น้ำโขงและสามารถยึดของกลางเป็นยาบ้าได้กว่า 500 กิโลกรัม
นอกจากนี้ เมื่อ 17 มี.ค. 56 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งจนเป็นเหตุให้มีการเข้มงวดกวดขันลุ่มแม่น้ำโขงมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว โดยหน่วยที่ลาดตระเวนได้ตรวจพบเรือแม่น้ำโขงลักษณะคล้ายเรือหาปลาขนาดใหญ่ แต่กลับไม่ได้ชักธงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าเป็นสัญชาติใดแต่คาดการณ์กันว่ามาจากประเทศพม่า ได้แล่นผ่านเส้นทางเดียวกันจึงได้มีการให้สัญญาณหยุดตรวจ เมื่อไม่มีการตอบรับจึงเกิดการปะทะกันขึ้น เป็นเหตุให้กองกำลังติดอาวุธของเรือไม่ทราบสัญชาติได้รับบาดเจ็บ 1 คน ที่เหลือนำเรือแล่นหลบหนีไปได้
ก่อนหน้านี้หลังจากที่นายหน่อคำ พร้อมพวกได้ก่อเหตุปล้นเรือสินค้าจีน 2 ลำบริเวณบ้านสามพู จ.ท่าขี้เหล็ก เหนือสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ขึ้นไปประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นเหตุให้ทางการจีนผลักดันให้ สปป.ลาว พม่า และไทยคงความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยให้แก่เรือเดินสินค้าในแม่น้ำโขง โดยฝ่ายไทยตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) ส่วนหน้าที่ท่าเรือแม่น้ำโขงเชียงแสนแห่งที่ 1
ล่าสุด หัวหน้าตำรวจจากมณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน ยังได้เข้าพบตำรวจไทยที่ จ.เชียงราย เพื่อเสนอร่างแผนความร่วมมือต่อกันเพิ่มเติมอีกด้วย เนื่องจากมีรายงานว่าลุ่มแม่น้ำโขงยังคงมีกลุ่มติดอาวุธกลุ่มใหม่ที่เข้ามาแทนกลุ่มของนายหน่อคำ และมีพฤติกรรมเหมือนกันคือเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากเรือสินค้าในแม่น้ำโขง
การข่าวระบุว่าเป็นกลุ่ม “จะสีโป” ซึ่งเป็นอาสาสมัครชาวเผ่ามูเซอ เคลื่อนไหวอยู่พื้นที่เดิมกับนายหน่อคำ แถวบ้านสามพู เมืองป๊อก ไปทางทิศเหนือประมาณ 7-8 กิโลเมตร มีกองกำลังประมาณ 40-50 นาย
