xs
xsm
sm
md
lg

“ปานศิริ” เผยความคืบหน้าคดีสังหาร 13 ลูกเรือจีน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
รอง ผบ.ตร.เปิดเผยความคืบหน้าคดีสังหาร 13 ลูกเรือจีนยืนยันว่าตำรวจทำคดีอย่างรวดเร็วและรัดกุม เนื่องจากเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

วันนี้ (1 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีสังหารลูกเรือจีน 13 ศพในลำน้ำโขง กล่าวถึง กรณีศาลประชาชนเมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ประหารชีวิตนายหน่อคำ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ ที่ร่วมกับพวกรวม 3 คนปล้นและฆ่าลูกเรือจีน 13 คนว่า การดำเนินคดีในประเทศไทยได้แบ่งออกเป็น 3 คดี โดยคดีแรกเป็นคดีที่พบยาเสพติดบนเรือจีน จำนวน 920,000 เม็ด ซึ่งจากการสอบสวนพบว่ายาบ้าทั้งหมด นายหน่อคำเป็นคนนำขึ้นมาบนเรือเอง กัปตันเรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ศาลจึงมีความเห็นไม่สั่งฟ้องกัปตันเรือ ซึ่งได้ส่งสำนวนไปยังอัยการแล้วเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.ปานศิริกล่าวต่อไปว่า ส่วนคดีที่ 2 เป็นคดีที่มีทหารไทยจำนวน 9 นายเข้าไปร่วมกันฆ่าและย้ายทำลายศพลูกเรือจีนทั้ง 13 คน โดยการโยนลงน้ำ ซึ่งศาลจังหวัดเชียงรายมีคำสั่งว่าผู้ตายทั้งหมดถูกยิงด้วยอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ และอาวุธปืนของนายหน่อคำ ซึ่งได้แจ้งข้อหาทหารทั้ง 9 นายไปแล้ว โดยในจำนวนนี้มีนายทหารชั้นสัญญาบัตร 2 นาย ขณะเดียวกันยังพบว่านายจำรัส สมพงศ์พรรณ หรือลุงหนวด สัญชาติไทย อายุ 57 ปี เป็นผู้ประสานงานระหว่างทหารไทยกับนายหน่อคำ และเป็นผู้วางแผนก่อเหตุ ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี ตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่า นายจำรัสเคยถูกจับกุมข้อหาร่วมกันมีเฮโรอีนไว้จำหน่าย เมื่อปี 2526 และจ้างวานฆ่านายสันติ ชัยวิรัตนะ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อปี 2538 และสู้คดีจนพ้นผิดได้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้เบาะแสว่าเจ้าตัวยังกบดานอยู่ตามแนวชายแดนพม่าและลาว

รอง ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า ในส่วนคดีที่ 3 เป็นคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะนี้รอส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดเชียงรายภายในสัปดาห์หน้านี้ ทั้งนี้ยืนยันว่าตำรวจทำคดีอย่างรวดเร็วและรัดกุม เนื่องจากเกี่ยวพันกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น