เลย - วาทกรรม รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม “ยุบ อบจ.” เดือด เลขาฯ นายก อบจ.เลย ตอก “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” จุ้นข้ามกระทรวง ชี้บทบาทการทำงานไม่ซ้ำซ้อนกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ย้ำนักการเมืองเข้ามาแล้วต้องจากไป ชี้ยุบ อบจ.หรือไม่ต้องให้ประชาชนร่วมตัดสินใจ
จากกรณีที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวระหว่างพิธีทำบันทึกข้อตกลงโครงการเลยสวยใส ไร้มลพิษ ระหว่างกรมควบคุมมลพิษกับกรมส่งเสริมปกครองส่วนท้องถิ่นที่โรงแรมเลยพาเลซ อ.เมือง จ.เลย โดยมีผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เข้าร่วมพิธีว่า มีความเห็นพ้องกับสภาผู้แทนราษฎร และคณะรัฐมนตรีที่กำลังพิจารณายุบเลิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ เนื่องจากบทบาทหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด มีความซ้ำซ้อนกับเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล หากยุบองค์การบริหารส่วนจังหวัดแล้ว งบประมาณต่างๆ จะส่งตรงไปถึงทำให้โอกาสการพัฒนาท้องถิ่นมีมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการเรียกร้องจากประชาชน และตัวแทน อบต.และเทศบาล เข้ามาจำนวนมาก
นายธรรมนูญ ภาคธูป เลขานุการนายก อบจ.เลย เปิดเผยกรณีดังกล่าวว่า ต้องแยกออกเป็นสองส่วน คือเป็นความเห็นส่วนตัวของนายปรีชาเอง หรือเป็นนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเท่าที่ทราบมานั้นทางรัฐบาลยังไม่มีนโยบายปรับเปลี่ยนรูปแบบการปกครองท้องถิ่น การที่นายปรีชา ออกมาให้ความเห็นเช่นนี้ ตนมองว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ข้ามกระทรวง
“เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดูแล การจะยุบ อบจ.หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ นั้นต้องมีการศึกษาให้รอบด้านเสียก่อนว่า จะจัดสรรงบประมาณ หรือบุคลากรกันอย่างไร และสุดท้ายต้องถามความเห็นของประชาชน ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจด้วย เพราะ อบจ.เป็นองค์กรรูปแบบหนึ่งของการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ภารกิจ อำนาจหน้าที่ของ อบจ.มีกฎหมายรองรับ ให้เข้าไปมีส่วนช่วยพัฒนาท้องถิ่น
ส่วนที่เป็นช่องว่างระหว่างรอยต่อ อบต.หรือเทศบาล การทำงานของ อบจ.มีความคล่องตัว สามารถออกไปช่วยเหลือประชาชนได้รวดเร็ว อย่างกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ เครื่องจักร อบจ.มีความพร้อม หรือการช่วยเหลือประชาชนด้านการให้บริการทางการแพทย์ ที่ทางหน่วยงานของรัฐดูแลไม่ทั่วถึง เช่น การส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือการผ่าตัดต้อกระจก ซึ่งทาง อบจ.เลยได้ทำมาแล้ว ไม่มีความซ้ำซ้อนกันอย่างแน่นอน”
เลขานุการนายก อบจ.เลย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเมืองนั้น ทาง อบจ.ไม่ได้แบ่งแยกเรื่องขั้วการเมืองในท้องถิ่น ที่ผ่านมายินดีสนับสนุนการทำงานของทุกฝ่ายอยู่แล้ว หากนายปรีชามองว่า อบจ.มีอิทธิพลเหนือผู้ว่าฯ หรือผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คงไม่ถูกต้องนัก อย่างเช่น งานการขุดลอกแหล่งน้ำของกระทรวงทรัพยากรฯ ที่นายปรีชาดูแลอยู่ อบจ.ก็สนับสนุนเครื่องจักรไปปฏิบัติหน้าที่ด้วย นักการเมืองมาแล้วก็จากไป ทำงาน 4 ปี ประชาชนจะเป็นคนตัดสินว่าจะเลือกอีกหรือไม่
