xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งหาแหล่งที่มารถหรูไฟไหม้ พบป้ายทะเบียนนามสกุลดังซุก“ลัมโบร์กินี่”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รถหรูหลายยี่ห้อจำนวน  6 คัน ถูกไฟปริศนาเผาวอด 4 คัน บนรถเทรลเลอร์ (แฟ้มภาพ)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ตำรวจภาค 3 เร่งสืบหาเจ้าของและแหล่งที่มารถหรูถูกเผาวอดคารถเทรลเลอร์ 4 คัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาทว่าผ่านกระบวนการถูก กม.หรือไม่ ชี้ยังไม่พบเบาะแสเอี่ยวแก๊งโจรกรรมรถข้ามชาติ พนักงานสอบสวนและ จนท.พิสูจน์หลักฐานลงตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเร่งไขปริศนาเหตุเพลิงไหม้ พบป้ายทะเบียนซุกรถ“ลัมโบร์กินี่” เป็นของนามสกุลคนดัง ด้านกรมศุลฯสั่งอายัดทั้ง 6 คันไว้ตรวจสอบที่มา

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่ห้องข้อมูลข่าวสารกองกำกับการสืบสวนสอบสวนภาค 3 พ.ต.อ.ภาณุ บุรณศิริ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบก.สส.ภ.3) เปิดเผยความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้รถเทรลเลอร์ บรรทุกรถยนต์หรูราคาแพง เหตุเกิดขึ้นบริเวณช่วงหลักกิโลเมตรที่ 36-37 ถ.มิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าตรู่วานนี้ (29 พ.ค.) ว่า ตรวจสอบเบื้องต้นทรัพย์สินที่เสียหายเป็นรถยนต์หรูรวมจำนวน 6 คัน คือ ตระกูลโรลส์รอยซ์ ยี่ห้อเบนท์ลีย์ จำนวน 2 คัน ถูกเผาเสียหาย 1 คัน, ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นเอส 6 จำนวน 1 คัน, ยี่ห้อเฟอร์รารี่ 1 คัน, ยี่ห้อลัมบอร์กินี 1 คัน และยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นอี300 จำนวน 1 คัน รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ มี นายเอกพัฒก์ วิลามาศ อายุ 37 ปี เป็นผู้ขับขี่รถเทรลเลอร์คันประสบเหตุ โดย บริษัท องุ่น จึงแสงมณี จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 95 หมู่ 3 ถ.สุวินทวงศ์ 24 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ รับว่าจ้างให้ดำเนินการขนส่ง

ขณะนี้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.กลางดง อ.ปากช่อง พร้อมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มงานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 ร่วมตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ สภาพความเสียหาย เพื่อหาพยาน ร่องรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อไขปริศนาของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้

พ.ต.อ.ภาณุกล่าวต่อว่า ได้ประสานผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นดีลเลอร์นำเข้ารถยนต์ยี่ห้อหรูร่วมตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน หมายเลขตัวเครื่อง ชิ้นส่วน และอุปกรณ์ส่วนควบต่างๆ รถยนต์ทุกคันโดยละเอียด เพื่อสืบค้นแหล่งที่มาว่าผ่านกระบวนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นทราบแต่เพียงว่านำส่งปลายทางที่จังหวัดศรีสะเกษ

นอกจากนี้ยังประสานงานเจ้าหน้าที่สืบสวนฯ ลงพื้นที่ค้นหาสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทรัพย์สินเหล่านี้ตลอดเส้นทางการลำเลียงจนไปถึงปลายทาง คงต้องรอผลตรวจซึ่งใช้ระยะเวลาพอสมควรจึงจะสามารถทราบผล และนำไปสู่การคลี่คลายคดี

“รับทราบจากการรายงานข้อมูลทางลับในเบื้องต้น ยังไม่ปรากฏสิ่งบ่งชี้ว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ หรือลักลอบนำเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเชื่อว่าเจ้าของรถยนต์ยี่ห้อหรูราคาหลายสิบล้านเหล่านี้น่าจะเป็นของผู้มีฐานะร่ำรวยในพื้นที่อีสานตอนล่าง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครแสดงตัวรับเป็นเจ้าของแต่อย่างใด” พ.ต.อ.ภาณุกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.มาโนช เกิดขวัญ ผู้กำกับการด (ผกก.) สภ.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า รถยนต์หรูที่ถูกไฟไหม้บนรถเทรลเลอร์จำนวน 4 คัน จากรถทั้งหมด 6 คัน จนถึงขณะนี้ยังไม่ มีใครยอมมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ซึ่งจากการสอบปากคำ นายเอกพัทก์ วิลามาศ คนขับรถเทรลเลอร์ทราบว่า รถทั้งหมดได้บรรทุกมาจากพื้นที่พระราม 5 กทม. ให้ไปส่งจอดรอที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ. ศรีสะเกษ จากนั้นจะมีคนมารับเอง ส่วนรถถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ คนขับรถเทรลเลอร์บอกว่าไม่ทราบ มีเพียงหน้าที่ขนส่ง

ส่วนการประกันภัยสินค้า นั้น รถยนต์หรูทั้ง 6 คัน ทำประกันภัยไว้กับ บริษัท สยามซิตี้ ประกันภัย จำกัด ในวงเงิน 10 ล้านบาท

“จนถึงเวลานี้ ยังไม่มีใครมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ ซึ่งในขั้นตอนนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการมาตรวจสอบและยึดรถไว้ตรวจสอบก่อนว่านำเข้ามาโดยถูกต้องหรือไม่ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่ารถยนต์ทุกคันติดตั้งท่อสำหรับเติมแก๊สและมีถังบรรจุแก๊สด้วย” พ.ต.อ.มาโนช กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักสืบสวนและปราบปรามทางบก 1 กรมศุลกากร ได้สั่งอายัดรถยนต์หรูทั้ง 6 คัน ไว้เพื่อตรวจสอบหาแหล่งที่มาว่ามีการนำเข้าอย่างถูกกฎหมายหรือไม่ หากใครมีหลักฐานถูกต้องก็ให้นำหลักฐานมาแสดงเพื่อขอรับรถคืนได้

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการจาก สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน 3 นครราชสีมา นำโดย พ.ต.อ. เสรีย์ จันทรประทิน ผู้ชำนาญการพิสูจน์หลักฐาน 3 (สบ.5)นครราชสีมา ได้นำรถที่ถูกไฟไหม้ลงมาจากรถเทลเลอร์ เพื่อตรวจสอบเลขตัวถัง และเลขเครื่อง โดยละเอียด ซึ่งพบว่ารถยนต์หรูทุกคันติดตั้งถังแก๊ส และมีหัวเติมพร้อม นอกจากนี้ยังพบแผ่นป้ายทะเบียนใหม่ภายในรถลัมโบร์กินี่ที่ถูกไฟไหม้จำนวน 2 แผ่นป้าย หมายเลข ฌล 6217 กทม. และเมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นนามสกุลคนดัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ขอเปิดเผย

ขณะที่ เจ้าของรถเทลเลอร์ ได้ เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กลางดง แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกเพียงสั้นๆ ว่า รับจ้างบรรทุกขนส่งรถดังกล่าวทางโทรศัพท์ไม่ทราบผู้ว่าจ้างเป็นใคร ทราบเพียงว่าให้บรรทุกรถจากถนนพระราม 5 กรุงเทพฯ ไปส่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน จ. ศรีษะเกษ แล้วจะมีคนมารับช่วงต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น