พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจเสนา ประสานปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับช้างเร่ร่อนอายุ 1 ปี พร้อมคนนำพา หลังชาวบ้านแจ้งพาช้างหากินในบริเวณตลาดเสนา ขณะที่เ้จาของช้างพยายามอ้างบิ๊กทำเนียบรัฐบาลอนุญาต ด้านปศุสัตว์ฯพระนครศรีอยุธยา ได้จังหวะประกาศกวาดล้างช้างเร่ร่อนจริงจัง หลังพบย่านตลาดแกรนด์
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (30 พ.ค.) ร.ต.ต.สะเทื้อน แย้มผกา รอง สวป.สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีลูกช้างเดินเร่ร่อนขอเงินในตลาดบ้านแพน อ.เสนา เป็นเหตุให้การจราจรติดขัด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ บริเวณหน้าตลาด ซึ่งมีการจราจรคับคั่งเนื่องจากถนนเล็ก มีวัยรุ่นสองคนกำลังเดินจูงลูกช้างวัย 1 ปี เดินขอเงินจากชาวบ้าน ทำให้การจราจรติดขัด จึงได้เข้าไปตักเตือน และแนะนำให้วัยรุ่นทั้งสองคนนำช้างออกมาจากบริเวณดังกล่าว
แต่ปรากฏว่าวัยรุ่นทั้งสองอ้างไม่รู้จักทางและไม่ยอมออก พร้อมทั้งโทรศัพท์ตามนายภัทรพล ศรีมาระ อายุ 40 ปี บ้านอยู่ 97 ม.8 ต.กะโพง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าของช้างมาเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายภัทรพล อ้างว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิ์ที่จะไล่ช้างออกไปจากถนน และตนสามารถเดินไปไหนมาไหนบนถนนก็ได้
ขณะเดียวกันก็นำเอกสารเป็นตั๋วรูปพรรณช้างมาแสดง ระบุชื่อพลายทองดี อายุ 1 ปี และยังได้นำเอกสารการประชุมของกลุ่มชาวช้างมาให้เจ้าหน้าที่ดู โดยบอกว่าเป็นเอกสารที่ชาวช้างได้หารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่อนผันปัญหาช้างเร่ร่อน ซึ่งในเนื้อหาการประชุมขอผ่อนผันเรื่องช้างเร่ร่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการ โดยนายภัทรพล อ้างว่าการประชุมดังกล่าวแจ้งให้ชาวช้างสามารถนำช้างออกมาเร่ร่อนได้ โดยไม่ต้องมีเอกสารใด ๆ เช่นใบเคลื่อนย้ายช้าง โดยมีการโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงพาช้างออกมาจากถนน
ต่อมานายสืบสวัสดิ์ ภาคพิบูลย์ ปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มอบหมายให้นายสัตวแพทย์ชูฤทธิ์ เสนียมโนมัย หัวหน้ากลุ่มงานโรคระบาด ปศุสัตว์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเสงี่ยม ธารีจิตร ปศุสัตว์อำเภอเสนา และนายอรรนพ สุวรรณวิชนีย์ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอเดินทางมาตรวจสอบ โดยขอดูใบเคลื่อนย้ายสัตว์ แต่ปรากฏว่านายภัทรพล ไม่มี มีแต่เพียงตั๋วรูปพรรณของลูกช้างเชื่อกนี้ และพยายามโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ และพยายามขอชื่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์และตำรวจ อ้างว่าจะรายงานทำเนียบรัฐบาล โดยบอกว่า ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็จบเรื่องกันไป เนื่องจากหากจับกุมก็จะต้องโทรศัพท์หาผู้ใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาลอีก
แต่นายสัตวแพทย์ชูฤทธิ์ แจ้งว่า เอกสารการประชุมไม่ใช่ พ.ร.บ.ของกรมปศุสัตว์ จึงไม่สามารถมาขอผ่อนผันอะไร และยังไม่เคยได้รับแจ้งว่าจะต้องยกเลิกหรือละเว้นความผิดเกี่ยวกับช้างเร่ร่อน เบื้องต้นจึงแจ้งให้ทราบว่านายภัทรพล มีความผิดตามมาตรา 34 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ โดยเคลื่อนย้ายสัตว์ไม่มีใบอนุญาตจากปศุสัตว์ท้องที่ ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท จำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
นายชูฤทธิ์ เปิดเผยภายหลังว่า เจ้าของช้างได้นำหนังสือขอความร่วมมือจากการที่มีการประชุมเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนย้ายสัตว์ไปสถานที่ต่างๆ ของรัฐบาล มันเป็นคนละส่วนกัน การอำนวยความสะดวกมันต้องมีระดับไม่ใช่เพื่อเป็นการนำช้างมาเร่ร่อน หากว่าการเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ต้องมีหนังสือจากท้องที่ที่ช้างอยู่มาแสดง
แต่ในกรณีนี้ไม่มีเอกสารในการเคลื่อนย้าย จะนำหนังสือขอความร่วมมือมาแสดงไม่ได้ ซึ่งทางปศุสัตว์จังหวัดจะออกตรวจสอบอย่างเข้มเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนเข้ามามาก โดยเฉพาะในย่านตลาดแกรนต์ อ.อุทัย และใน ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะพยายามผลักดันไม่ให้มีช้าง เร่ร่อนออกมาสร้างความรำคาญต่อประชาชน หากไม่เชื่อฟังจะจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที