xs
xsm
sm
md
lg

ตร.บุรีรัมย์นำแก๊งโจ๋บุกถล่ม ร.ร.บุรีรัมย์การบริบาล ส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้องศาลแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ นำสำนวนคดี พร้อมกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุใช้อาวุธมีดบุกถล่ม ร.ร.การบริบาล ส่งอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องศาลแล้ว วันนี้ ( 29 พ.ค.)
บุรีรัมย์ - สภ.เมืองหอบสำนวนคดีพร้อมกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุใช้อาวุธมีดบุกถล่ม ร.ร.บุรีรัมย์การบริบาล ส่งอัยการจังหวัดเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องศาลแล้ว ด้านอัยการตั้งคณะทำงานตรวจสอบสำนวน คาดแล้วเสร็จ 4 มิ.ย. ขณะ “ช่างวิน” ผู้ต้องหาจ้างวาน และ “ตี๋กิโล 7” หัวโจกพากลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุยังถูกฝากขังเรือนจำ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 5 คนยังหลบหนี

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) พ.ต.อ.วิรัตน์ ถาดทอง รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ที่ดูแลรับผิดชอบคดีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนสวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธมีดบุกถล่มโรงเรียนบุรีรัมย์การบริบาลที่เปิดสอนหลักสูตรผู้ช่วยการพยาบาล หวังทำร้ายนายวัชรพล ทองศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียน และเจ้าหน้าที่ ขณะกำลังปฐมนิเทศนักศึกษาเพื่อเปิดทำการเรียนการสอนเป็นวันแรก เมื่อเช้าวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา มอบหมายให้ พ.ต.ท.อนิรุทธิ์ ผดุงดี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนำสำนวนคดี พร้อมวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุ 4 คนที่เข้ามอบตัวตามหมายเรียกส่งอัยการจังหวัดเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องศาลแล้ว หลังได้ทำการสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานมานานกว่า 2 เดือน

ส่วนนายวิเชียร สมศักดิ์ หรือ “ตี๋กิโล 7” หัวโจกที่พากลุ่มวัยรุ่นไปก่อเหตุ และนายพสิทธิ์ ดาววัฒนะทรัพย์ หรือ “ช่างวิน” เจ้าของอู่เคาะพ่นสีและซ่อมรถยนต์ ผู้ต้องหาจ้างวานยุยงส่งเสริมให้กระทำผิดที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ยังถูกฝากขังที่เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์ โดยนายพสิทธิ์จะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 7 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 4 มิถุนายนนี้

สำหรับคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 13 คน ข้อหาร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหสถานหรืออาคารสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่น, โดยไมมีเหตุอันควร, โดยมีอาวุธ, พาอาวุธมีด และโดยใช้กำลังประทุษร้าย ได้เข้ามอบตัวตามหมายเรียกแล้ว 6 คน กันตัวไว้เป็นพยาน 2 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ 2 คน ส่วนอีก 5 คนยังหลบหนี และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่

ด้านนายถิระศักดิ์ ตระกูลอินทร์ อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวภายหลังรับสำนวนคดีจากพนักงานสอบสวนว่า จะตั้งคณะทำงานตรวจสอบสำนวนเพื่อให้รวดเร็วขึ้น เพราะคดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และอยู่ในความสนใจของประชาชน ทั้งนี้ คาดว่าจะตรวจสอบสำนวนแล้วเสร็จภายในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ส่วนจะพิจารณาสั่งฟ้องศาลหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับสำนวนและพยานหลักฐาน ทั้งนี้ ทางอัยการจังหวัดยังจะได้รายงานผลให้อธิบดีอัยการภาค 3 รับทราบด้วยเนื่องจากเป็นคดีสำคัญ


กำลังโหลดความคิดเห็น