หนองคาย - ตำรวจเมืองหนองคายกวาดล้างร้านค้าจำหน่ายบั้งไฟขนาดเล็ก ยึดบั้งไฟของกลางได้มากถึง 5,229 บั้ง ส่วนใหญ่นิยมซื้อไปเล่นพนัน ตำรวจเตือนแม้ขนาดจะเล็กแต่อันตรายสูง
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ด้านหน้า สภ.เมืองหนองคาย พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ปิยะบุตร ไพบูลย์ รอง ผกก.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมและตรวจยึดบั้งไฟขนาดเล็ก ประกอบด้วย บั้งไฟขนาด 4 หุ่น ยาว 10 เซนติเมตร จำนวน 69 บั้ง, บั้งไฟขนาด 4 หุ่น ยาว 6 เซนติเมตร จำนวน 700 บั้ง, บั้งไฟขนาด 4 หุ่น ยาว 8 เซนติเมตร จำนวน 190 บั้ง, บั้งไฟขนาด 3 หุ่น ยาว 6 เซนติเมตร จำนวน 270 บั้ง และบั้งไฟขนาดเล็กที่เรียกว่า ห่อหมกกาบกล้วยอีกจำนวน 4,000 บั้ง รวม 5,229 บั้ง
ทั้งนี้ หลังจากที่เกิดเหตุบั้งไฟในงานบุญบั้งไฟเดือน 6 ชุมชนวัดธาตุร่วมกับเทศบาลเมืองหนองคาย พุ่งออกจากฐานปล่อยผิดทิศชนรถยนต์และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 รายเมื่อเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองคายได้กวดขันการจำหน่ายพลุ บั้งไฟ ดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อป้องกันเหตุ
โดยเมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายประวิทย์ อนันตกิจโสภณ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 526 ม.6 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายของเล่นในตัวเมืองหนองคาย และมีการวางจำหน่ายบั้งไฟซึ่งเป็นดอกไม้เพลิงประดิษฐ์เอง ซึ่งนายประวิทย์ให้การรับสารภาพว่าตนรับบั้งไฟมาจำหน่ายโดยไม่มีใบอนุญาต ผู้ซื้อส่วนใหญ่มักจะนำไปจุดแล้วเล่นพนันกัน จึงทำการตรวจยึดของกลางและจับกุมดังกล่าว
พ.ต.อ.วิบูลย์ วงศ์ก้อม รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย กล่าวว่า บั้งไฟที่ยึดและจับกุมมาได้นี้เป็นวัตถุอันตรายเทียบเท่ากับเครื่องกระสุน บรรจุดินประสิว และกำมะถันในท่อพีวีซีเช่นเดียวกับบั้งไฟขนาดใหญ่ อาจจะระเบิดและเกิดอันตรายได้
“ต้องขอเตือนผู้ขายต้องได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนตามกฎหมาย ผู้ซื้อไม่แนะนำ และไม่ควรซื้อไปเล่นเพราะเป็นอันตรายมาก”
คลิกเพื่อชมคลิป: