ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุสยองงานบุญบั้งไฟได้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วานนี้ (26 พ.ค.) ร.ต.อ.เจษฎา ว่องไว ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเกิดเหตุบั้งไฟชนรถมีผู้เสียชีวิตที่บริเวณทุ่งนาหนองตั๋ว บ้านจอมเสด็จ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย สถานที่จุดบั้งไฟจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองคาย และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคงคาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า โคโรลลา สีเขียว ทะเบียน กค 2142 หนองคาย ไฟไหม้ทั้งคัน ห่างจากฐานจุดบั้งไฟประมาณ 100 เมตร ภายในรถพบศพนางเสงี่ยม สนธิรัตน์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253 หมู่ 7 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลปะโค ถูกไฟคลอกร่างเสียชีวิตบนเบาะรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร
ส่วนคนขับรถ คือ นายอนุวัฒน์ พินทุวงศ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266 หมู่ 1 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เนื่องจากนายอนุวัฒน์ ถูกไฟคลอกเช่นเดียวกับนางเสงี่ยม ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย
จากการสอบสวนทราบว่า ชุมชนวัดธาตุร่วมกับเทศบาลเมืองหนองคายได้จัดงานบุญบั้งไฟประเพณีเดือน 6 โดยมีขบวนแห่บั้งไฟและมีการแข่งขันจุดบั้งไฟขึ้นสูง ปีนี้มีบั้งไฟเข้าร่วมแข่งขัน 250 บั้ง แข่งขันจุดบั้งไฟระหว่างวันที่ 25-29 พ.ค.นี้ โดยวันที่ 26 พ.ค.เป็นวันที่สองเริ่มจุดตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไปซึ่งจะจุดบั้งไฟพร้อมกัน 3 บั้ง
ก่อนเกิดเหตุเป็นการจุดบั้งไฟชุดที่ 5 มีการนำบั้งไฟขึ้นฐานเตรียมจุดพร้อมกัน 3 บั้ง บั้งที่เกิดเหตุนั้นเป็นบั้งไฟของทีม น้องปลายฟ้า บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเช็กความพร้อมแล้วจึงทำการจุดชนวนด้วยระบบไฟฟ้า แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อบั้งไฟถูกจุดแล้ว กำลังจะทะยานขึ้นฟ้า ห่วงสำหรับบังคับทิศทางของบั้งไฟได้เกิดหลุด เนื่องจากแรงดันของบั้งไฟสูงเกินไปทำให้ห่วงหลุดจนบั้งไฟเปลี่ยนทิศ และหางของบั้งไฟเกิดหักจนทำให้ตัวบั้งไฟหลุดออกจากฐานปล่อย แล้วตัวบั้งไฟหมุนคว้างกลางอากาศพุ่งเป็นแนวราบไปกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่รถของนายอนุวัฒน์ และนางเสงี่ยม ขับเข้ามาในบริเวณงานพอดี ตัวบั้งไฟได้พุ่งเข้าปะทะกับประตูรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร จนตัวบั้งไฟเกิดหักเป็นสองท่อน ดินประสิวที่แตกออกจากตัวบั้งไฟได้กระจายไปทั่วรถ
เป็นเหตุให้เกิดประกายไฟทำให้เพลิงลุกไหม้รถทั้งคัน ผู้ที่มาชมงานได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือ โดยนำตัวนายอนุวัฒน์ ออกมาได้ แต่ร่างนายอนุวัฒน์ ถูกไฟคลอกมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองคายแต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนางเสงี่ยมไม่สามารถช่วยออกมาจากรถได้เพราะระบบล็อกไม่ทำงาน ทำให้นางเสงี่ยมถูกย่างสดภายในรถ
หลังจากสอบสวนเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวผู้จัดงาน ซึ่งประกอบไปด้วยเทศบาลเมืองหนองคาย, เจ้าของบั้งไฟ, ทีมงานแบกบั้งไฟขึ้นฐานปล่อย ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองหนองคายในวันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 10.00 น. และได้มีการประกาศยุติการจุดบั้งไฟในงานประเพณีบุญบั้งไฟเดือน 6 ทันที.
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า โคโรลลา สีเขียว ทะเบียน กค 2142 หนองคาย ไฟไหม้ทั้งคัน ห่างจากฐานจุดบั้งไฟประมาณ 100 เมตร ภายในรถพบศพนางเสงี่ยม สนธิรัตน์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253 หมู่ 7 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลปะโค ถูกไฟคลอกร่างเสียชีวิตบนเบาะรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร
ส่วนคนขับรถ คือ นายอนุวัฒน์ พินทุวงศ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 266 หมู่ 1 ต.ปะโค อ.เมืองหนองคาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เนื่องจากนายอนุวัฒน์ ถูกไฟคลอกเช่นเดียวกับนางเสงี่ยม ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย
จากการสอบสวนทราบว่า ชุมชนวัดธาตุร่วมกับเทศบาลเมืองหนองคายได้จัดงานบุญบั้งไฟประเพณีเดือน 6 โดยมีขบวนแห่บั้งไฟและมีการแข่งขันจุดบั้งไฟขึ้นสูง ปีนี้มีบั้งไฟเข้าร่วมแข่งขัน 250 บั้ง แข่งขันจุดบั้งไฟระหว่างวันที่ 25-29 พ.ค.นี้ โดยวันที่ 26 พ.ค.เป็นวันที่สองเริ่มจุดตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไปซึ่งจะจุดบั้งไฟพร้อมกัน 3 บั้ง
ก่อนเกิดเหตุเป็นการจุดบั้งไฟชุดที่ 5 มีการนำบั้งไฟขึ้นฐานเตรียมจุดพร้อมกัน 3 บั้ง บั้งที่เกิดเหตุนั้นเป็นบั้งไฟของทีม น้องปลายฟ้า บึงกาฬ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเช็กความพร้อมแล้วจึงทำการจุดชนวนด้วยระบบไฟฟ้า แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อบั้งไฟถูกจุดแล้ว กำลังจะทะยานขึ้นฟ้า ห่วงสำหรับบังคับทิศทางของบั้งไฟได้เกิดหลุด เนื่องจากแรงดันของบั้งไฟสูงเกินไปทำให้ห่วงหลุดจนบั้งไฟเปลี่ยนทิศ และหางของบั้งไฟเกิดหักจนทำให้ตัวบั้งไฟหลุดออกจากฐานปล่อย แล้วตัวบั้งไฟหมุนคว้างกลางอากาศพุ่งเป็นแนวราบไปกับพื้น เป็นจังหวะเดียวกับที่รถของนายอนุวัฒน์ และนางเสงี่ยม ขับเข้ามาในบริเวณงานพอดี ตัวบั้งไฟได้พุ่งเข้าปะทะกับประตูรถด้านหน้าฝั่งผู้โดยสาร จนตัวบั้งไฟเกิดหักเป็นสองท่อน ดินประสิวที่แตกออกจากตัวบั้งไฟได้กระจายไปทั่วรถ
เป็นเหตุให้เกิดประกายไฟทำให้เพลิงลุกไหม้รถทั้งคัน ผู้ที่มาชมงานได้พยายามเข้าไปช่วยเหลือ โดยนำตัวนายอนุวัฒน์ ออกมาได้ แต่ร่างนายอนุวัฒน์ ถูกไฟคลอกมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองคายแต่ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนางเสงี่ยมไม่สามารถช่วยออกมาจากรถได้เพราะระบบล็อกไม่ทำงาน ทำให้นางเสงี่ยมถูกย่างสดภายในรถ
หลังจากสอบสวนเบื้องต้นแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวผู้จัดงาน ซึ่งประกอบไปด้วยเทศบาลเมืองหนองคาย, เจ้าของบั้งไฟ, ทีมงานแบกบั้งไฟขึ้นฐานปล่อย ไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองหนองคายในวันนี้ (27 พ.ค.) เวลา 10.00 น. และได้มีการประกาศยุติการจุดบั้งไฟในงานประเพณีบุญบั้งไฟเดือน 6 ทันที.