พระนครศรีอยุธยา - วังช้างอยุธยา ประกอบพิธีตัดงา “พลายงาม” วัย 27 ปี หลังทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวสระบุรี สามีได้รับบาดเจ็บ ส่วนภรรยาเสียชีวิต เจ้าของวังช้างอยุธยาเผยเป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวช้างที่เป็นการตัดกรรม หรือตัดวิญญาณที่สิงอยู่กับช้างหลังก่อเหตุเพื่อไม่ให้วิญญาณติดตัวช้าง และเป็นการส่งวิญญาณของผู้เสียชีวิตกลับไปสู่บ้าน พร้อมช่วยเหลือเหยื่อเต็มที่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ที่เพนียดคล้องช้าง ม.3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยา ได้ประกอบพิธีตัดงาช้างพลายงาม อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นช้างที่ทำร้ายนายณรงค์ศักดิ์ เล็กสถาน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501/14 หมู่ 9 ต.วังม่วง อ.วังม่วง จ.สระบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาขวา และนางอรอุมา เล็กสถาน อายุ 36 ปีภรรยา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลวังม่วง จ.สระบุรี ถูกช้างเตะจนร่างกายบอบช้ำเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายลายทองเหรียญ ได้นำช้างพลายงามเข้าคอกเหล็ก โดยมีนายชาติ นวมินทร์ อายุ 27 ปี ควาญช้างคอยบังคับช้างอยู่บนหลังช้าง จากนั้นได้มีการนำน้ำมนต์ซึ่งผสมแป้ง และสายสิญจน์มาทำการราดบริเวณงา และตามเท้าและหัวช้าง ก่อนที่จะทำการกำหนดจุด และตัดงาทั้ง 2 ช้างออกข้างละ 20 เซนติเมตร จากความยาวของงาข้างละ 1 เมตร โดยมีผ้าขาวคอยรองเอาไว้ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงเสร็จพิธี
นายลายทองเหรียญ เปิดเผยว่า พิธีกรรมนี้เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวช้าง โดยเป็นการตัดกรรม หรือตัดวิญญาณที่สิงอยู่กับช้างหลังก่อเหตุ เพื่อไม่ให้วิญญาณติดตัวช้าง และเป็นการส่งวิญญาณของผู้เสียชีวิตกลับไปสู่บ้าน นอกจากนี้ การตัดงาช้างยังเป็นการกำหนดให้ช้างรู้สึกว่าช้างควรจะมีความคิดแยกแยะว่าคนที่เข้ามาใกล้ช้างจะเป็นคนดีหรือไม่ ต้องแยกให้ได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีความคิด ถึงแม้ว่าสัญชาตญาณจะต้องระวังงา และหางอยู่แล้วก็ตาม หลังจากตัดงาแล้วช้างพลายงามก็จะถูกล่ามโซ่เอาไว้ในเพนียดนานโดยไม่มีกำหนด
นายลายทองเหรียญ ยังกล่าวด้วยว่า ช้างพลายงาม เป็นช้างที่เข้ามาอยู่เพนียดตั้งแต่เปิดวังช้าง ปัจจุบันมีน้ำหนัก 4 ตัน ความสูง 3 เมตร เป็นช้างลักษณะดี ปกติถ้าไม่มีควาญดูแลอยู่ในเพนียด ก็จะล่ามโซ่เอาไว้ในเพนียด และถือว่าเป็นถิ่นของเขา แต่เมื่อมีคนเข้าไปใกล้ช้างเกิดตกใจก็อาจจะทำร้ายได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังทราบว่ามีคนพยายามเข้าไปใกล้ และถูกทำร้ายตนก็รีบตามไปดูทันที และพบผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนบาดเจ็บ จึงรีบนำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา และทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ตนได้มอบหมายให้นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ผจก.ทั่วไปได้ประสาน และยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่ที่ยังไม่ได้เข้าไปเพราะเพิ่งเกิดเหตุ
โดยในค่ำวันที่ 27 พ.ค.นี้ ผจก.วังช้าง ก็จะเดินทางไปร่วมงานศพด้วย พร้อมหารือในการช่วยเหลือ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่สิ่งที่ตนต้องทำต่อไปคือ การเตือน และสร้างความชัดเจน ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้ช้างเวลาค่ำมืด หรือเวลาไม่มีควาญอยู่ ซึ่งตนก็ห้ามอยู่แล้ว แต่นักท่องเที่ยวเข้าไปโดยเราไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ช้างพลายงามก็จะเสียประวัติ กลายเป็นช้างที่ถูกจองจำไปโดยเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายชาติ ควาญช้างเปิดเผยว่า ตนดูแลช้างพลายงามมาตั้งแต่ยังไม่มีภรรยา จนปัจจุบันมีลูก 2 คนแล้ว เลี้ยงมา 15 ปี ไม่เคยมีประวัติทำร้ายคนเลย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะผู้เสียชีวิตก็มีลูกต้องดูแล รู้สึกเห็นใจญาติๆ และฝากขอโทษแทนพลายงามที่พูดไม่ได้ ที่สำคัญอยากฝากเตือนนักท่องเที่ยวอย่าเข้าใกล้ช้างเวลาไม่มีควาญ หรือเวลากลางคืน
ส่วนด้านการดำเนินคดี พ.ต.ท.พิมุข นาคขำพันธ์ สว.เวร สภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ได้ทำการสอบปากคำควาญช้าง เจ้าของช้างแล้ว และปล่อยตัวชั่วคราวและต้องไปสอบพยาน รวมทั้งผู้บาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีประมาทเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) ที่เพนียดคล้องช้าง ม.3 ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างอยุธยา ได้ประกอบพิธีตัดงาช้างพลายงาม อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นช้างที่ทำร้ายนายณรงค์ศักดิ์ เล็กสถาน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 501/14 หมู่ 9 ต.วังม่วง อ.วังม่วง จ.สระบุรี ได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาขวา และนางอรอุมา เล็กสถาน อายุ 36 ปีภรรยา พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลวังม่วง จ.สระบุรี ถูกช้างเตะจนร่างกายบอบช้ำเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยนายลายทองเหรียญ ได้นำช้างพลายงามเข้าคอกเหล็ก โดยมีนายชาติ นวมินทร์ อายุ 27 ปี ควาญช้างคอยบังคับช้างอยู่บนหลังช้าง จากนั้นได้มีการนำน้ำมนต์ซึ่งผสมแป้ง และสายสิญจน์มาทำการราดบริเวณงา และตามเท้าและหัวช้าง ก่อนที่จะทำการกำหนดจุด และตัดงาทั้ง 2 ช้างออกข้างละ 20 เซนติเมตร จากความยาวของงาข้างละ 1 เมตร โดยมีผ้าขาวคอยรองเอาไว้ โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงเสร็จพิธี
นายลายทองเหรียญ เปิดเผยว่า พิธีกรรมนี้เป็นพิธีกรรมตามความเชื่อของชาวช้าง โดยเป็นการตัดกรรม หรือตัดวิญญาณที่สิงอยู่กับช้างหลังก่อเหตุ เพื่อไม่ให้วิญญาณติดตัวช้าง และเป็นการส่งวิญญาณของผู้เสียชีวิตกลับไปสู่บ้าน นอกจากนี้ การตัดงาช้างยังเป็นการกำหนดให้ช้างรู้สึกว่าช้างควรจะมีความคิดแยกแยะว่าคนที่เข้ามาใกล้ช้างจะเป็นคนดีหรือไม่ ต้องแยกให้ได้ เนื่องจากเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีความคิด ถึงแม้ว่าสัญชาตญาณจะต้องระวังงา และหางอยู่แล้วก็ตาม หลังจากตัดงาแล้วช้างพลายงามก็จะถูกล่ามโซ่เอาไว้ในเพนียดนานโดยไม่มีกำหนด
นายลายทองเหรียญ ยังกล่าวด้วยว่า ช้างพลายงาม เป็นช้างที่เข้ามาอยู่เพนียดตั้งแต่เปิดวังช้าง ปัจจุบันมีน้ำหนัก 4 ตัน ความสูง 3 เมตร เป็นช้างลักษณะดี ปกติถ้าไม่มีควาญดูแลอยู่ในเพนียด ก็จะล่ามโซ่เอาไว้ในเพนียด และถือว่าเป็นถิ่นของเขา แต่เมื่อมีคนเข้าไปใกล้ช้างเกิดตกใจก็อาจจะทำร้ายได้ อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังทราบว่ามีคนพยายามเข้าไปใกล้ และถูกทำร้ายตนก็รีบตามไปดูทันที และพบผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนบาดเจ็บ จึงรีบนำส่ง รพ.พระนครศรีอยุธยา และทราบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ตนได้มอบหมายให้นายอิทธิพันธ์ ขาวละมัย ผจก.ทั่วไปได้ประสาน และยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่ที่ยังไม่ได้เข้าไปเพราะเพิ่งเกิดเหตุ
โดยในค่ำวันที่ 27 พ.ค.นี้ ผจก.วังช้าง ก็จะเดินทางไปร่วมงานศพด้วย พร้อมหารือในการช่วยเหลือ ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่สิ่งที่ตนต้องทำต่อไปคือ การเตือน และสร้างความชัดเจน ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปใกล้ช้างเวลาค่ำมืด หรือเวลาไม่มีควาญอยู่ ซึ่งตนก็ห้ามอยู่แล้ว แต่นักท่องเที่ยวเข้าไปโดยเราไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ช้างพลายงามก็จะเสียประวัติ กลายเป็นช้างที่ถูกจองจำไปโดยเลี่ยงไม่ได้
ด้านนายชาติ ควาญช้างเปิดเผยว่า ตนดูแลช้างพลายงามมาตั้งแต่ยังไม่มีภรรยา จนปัจจุบันมีลูก 2 คนแล้ว เลี้ยงมา 15 ปี ไม่เคยมีประวัติทำร้ายคนเลย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะผู้เสียชีวิตก็มีลูกต้องดูแล รู้สึกเห็นใจญาติๆ และฝากขอโทษแทนพลายงามที่พูดไม่ได้ ที่สำคัญอยากฝากเตือนนักท่องเที่ยวอย่าเข้าใกล้ช้างเวลาไม่มีควาญ หรือเวลากลางคืน
ส่วนด้านการดำเนินคดี พ.ต.ท.พิมุข นาคขำพันธ์ สว.เวร สภ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ได้ทำการสอบปากคำควาญช้าง เจ้าของช้างแล้ว และปล่อยตัวชั่วคราวและต้องไปสอบพยาน รวมทั้งผู้บาดเจ็บ เพื่อดำเนินคดีประมาทเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตต่อไป