“หมีแพนด้าเค้าว่าน่ารัก ผมนี้ชักชักอยากจะเห็น อยากสัมผัสหมีตัวเป็นๆ อยากจะเห็นเห็นหมีแพนด้า…” เพลงฮิตเพลงนี้มั่นใจว่าคนไทยเกินล้านคน คงต้องร้องได้แน่นอนในครั้ง “แพนด้าฟีเวอร์” ซึ่งความจริงในเวลานี้เราต้องโบกมืออำลาพวกมันไปแล้วเพื่อให้มันกลับไปอยู่ในธรรมชาติตามเดิมเสียที แต่สุดท้ายก็เกิดข่าวดีให้ได้เฮลั่น เมื่อทางรัฐบาลไปต่อรองจนได้ต่อสัญญาแพนด้าซึ่งต้องแลกด้วยงบประมาณ 44 ล้านบาทต่อปี มาถึงตอนนี้ทำเอาคนไทยสะอึก ค่าโชว์หมี ทำไมมันแพงสิ้นดี เกิดข้อสงสัย อย่างนี้เอาไปทำอย่างอื่นจะดีกว่ามั้ย !?
งบจ้างหมี 44 ล้านบาท
ไม่รู้จะเสียใจหรือว่าดีใจกับการที่จีนอนุมัติให้หลินปิงโชว์ตัวต่อไปอีก 15 ปี เพียงแต่ต้องส่งตัวกลับไปหาคู่ 1 ปี ก่อนจะกลับมาพร้อมคู่ของมัน ซึ่งต้องแลกด้วยงบประมาณ 29 ล้านบาทต่อปี ส่วนพ่อช่วงช่วงและแม่หลินฮุ่ยก็ต้องอยู่ประจำการไปก่อนแก้ขัดตอนหลินปิงไปหาคู่ ซึ่งทางไทยต้องจ่ายค่าตัวให้ 15 ล้านบาทต่อปี ดังนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัวหมีแพนด้าแบบพร้อมหน้าพร้อมตา 4 ตัว ที่ทางการไทยต้องจ่ายต่อปีจึงมากถึง 44 ล้านบาทเลยทีเดียว
ระยะเวลาเกือบ 10 ปี ที่ หมีแพนด้า สัญลักษณ์คู่สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้สร้างความสุขให้กับคนไทย รวมถึงดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างรายได้มหาศาลให้กับจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งในส่วนของสวนสัตว์เชียงใหม่เองก็เก็บค่าชมเฉพาะหมีแพนด้าได้ปีละไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท และครั้งที่แพนด้าน้อยหลินปิงลืมตาดูโลกก็เกิดปรากฏการณ์แพนด้าฟีเวอร์ที่แรงสุดๆ ฉุดไม่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นโหวตชื่อลูกแพนด้า สื่อที่นำเสนอพัฒนาการและทุกอิริยาบถของมัน ถึงขนาดมี แพนด้า แชนแนล ที่ถ่ายทอดสดให้ดูแพนด้าตลอด 24 ชั่วโมง
ถือว่าไม่แปลกที่รัฐบาลจะเล็งเห็นถึงความสำคัญของครอบครัวแพนด้านี้ แต่น่าเสียดายตรงที่ว่ารัฐจัดสรรงบประมาณออกมาแล้วดูไม่ถูกต้องนัก เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนยังออกมาบอกอยู่เลยว่าจะยุบโรงเรียนขนาดเล็ก ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่มีงบ!! แต่พอหมดสัญญาหมีแพนด้ารัฐก็พร้อมจ่ายไม่อั้นแบบไม่กลัวงบหมด สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับสังคมได้ดีเหลือเกิน และถึงแม้จะมีเสียงสะท้อนตอกกลับมาบ้างว่า เรื่องแพนด้าไม่เห็นเกี่ยวกับการยุบโรงเรียน เป็นงบประมาณคนละส่วน แต่ก็อดขบคิดไม่ได้จริงๆ ว่างบประมาณก้อนใหญ่นี้สมควรเอาไปพัฒนาด้านการศึกษาของเด็กไทยก่อนหรือไม่
ชาวเน็ตประชด “แพนด้าเคยกู้ชาติเอ็งรึไง ?”
หนึ่งประเด็นที่ถูกเอามาเปรียบเทียบอยู่เสมอ เมื่อพูดถึงจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อเป็นค่าตัวหมีแพนด้า รวมถึงความเป็นอยู่ที่อู้ฟู้หรูหรา มีสโนว์โดมให้เอนอิงนอนอาศัย แต่ในทางกลับกันแทบจะหลงลืมสัตว์คู่บ้านคู่เมืองอย่างช้าง ไปเสียอย่างนั้น จนมีคำเปรียบเปรยว่า “หมีแพนด้าอยู่อย่างราชา แต่ช้างไทยอยู่อย่างยาจก” และหลังจากเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเมืองไทยจะยังรั้งแพนด้าน้อยหลินปิงให้ชมแลกด้วยงบประมาณกว่า 29 ล้านบาทต่อปี จึงทำให้ถูกเสียดสีจากคนบนโลกออนไลน์ไม่ได้
“เงินมากมาย เก็บเงินไว้พัฒนาประเทศดีกว่านะครับ หลินปิงอยู่ ไม่ได้ทำประโยชน์ให้คนไทยเท่าไร แถมยังต้องเสียเงินเข้าไปดูอีกต่างหาก อยู่ก็ต้องมีเครื่องปรับอากาศให้อีก เอาไปช่วยดูแลสัตว์อื่นๆ บ้าง จะดีกว่าครับ”
“ครู 1 คน เงินเดือน 15,000 บาท 1 ปี 180,000 บาท 10 ปี 1,800,000 บาท จ้างครูได้ประมาณ 29 คน จำนวน 10 ปี เท่ากับหลินปิง อยู่เมืองไทย 1 ปี งบตั้ง 29 ล้าน เอาหลินปิงคืนไป เอาโรงเรียนคืนมา”
“ถ้าแพงขนาดนั้นก็คืนเขาไปเถอะ มิน่าหล่ะ ค่าเข้าถึงได้แพ๊งแพง จะดูอะไรก็มีแต่ค่าเข้าไปหมด เพราะค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ค่าดูอย่างอื่นก็เลยแพงไปด้วยนั้นเอง”
“มองอีกแง่ จีนสามารถนำสัตว์ประจำชาติมาหากินได้ปีละหลายล้าน ทำไมไทยไม่ทำบ้าง ทำให้ช้างไทยได้เป็นทูตเหมือนแพนด้า ส่งไปประเทศต่างๆ แล้วทำสัญญาให้ดูแลช้างอย่างดีเหมือนที่เราต้องดูแลแพนด้าอย่างดี”
“ประชาชนในประเทศบางคนอดอยากแทบไม่มีจะกิน หน้าหนาวเด็กๆ บนดอยเสื้อผ้าแทบไม่มีนุ่งห่ม คิดแล้วเสียดายเงินปีละ 29 ล้าน”
นอกจากหลากเสียงความคิดเห็นแล้ว อีกหลายเพจก็มีการประชดเสียดสีผ่านภาพล้อเลียนต่างๆ ชวนน่าขัน ถือเป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่เมืองไทยร่วมกันคัดค้านการทุ่มงบเพื่อหมีแพนด้า และรณรงค์ให้คนไทยเห็นคุณค่าของช้างสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของเรา
เหตุการณ์ดรามาของหมีแพนด้ากับช้างไทย ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดขึ้นตอนนี้ ย้อนไปเมื่อปี 2552 ที่วังช้างอยุธยา ในเขตเพนียดหลวงคล้องช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา ก็เคยมีการประชดประชันด้วยการแปลงร่างช้างให้เป็นหมีแพนด้า พร้อมเขียนข้อความกำกับไว้ว่า “ช้างอยากเป็นแพนด้า” ซึ่งมีนัยแฝงเล็กๆ ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับหมีแพนด้ามากเกินไปหรือเปล่า? ในทางกลับกัน ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย และทำคุณกับแผ่นดินไทยมามาก แต่รัฐบาลและคนไทยกลับไม่มีใครเห็นความสำคัญมากนัก และมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ รวมถึงที่บึงฉวากก็เคยนำจระเข้มาแปลงโฉมเป็นแพนด้าด้วยเช่นกัน
น้อยใจ “ช้างไทย” ด้อยค่ากว่า “แพนด้า”
นอกจากความคิดเห็นที่ร้อนแรงบนโลกออนไลน์แล้ว ทางกลุ่มคนรักษ์ช้างก็ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเช่นกัน อย่าง โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า ไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะต้องจ่ายเงินปีละกว่า 44 ล้านบาท เพื่อให้ครอบครัวหมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทยต่ออีก 15 ปี ขณะที่สัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึงช้างที่เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง กลับต้องอยู่อย่างลำบาก เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยเหลียวแลแม้แต่น้อย
ส่วนงบที่ดูแลช้างป่าและช้างเลี้ยงตามปางช้างทั่วประเทศไทย มูลนิธิต้องระดมเงินจากประชาชนและในส่วนของต่างประเทศได้แค่ปีละไม่ถึง 12 ล้านบาท ยังไม่รวมสัตว์อื่นๆ ที่อยู่ในสวนสัตว์และตามธรรมชาติ ที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลอย่างชัดเจน ขณะที่หมีแพนด้าที่มาอยู่ในประเทศไทย รัฐต้องจ่ายเงินค่าสนับสนุนให้กับประเทศจีนอย่างเป็นระบบ
“ส่วนตัวรู้สึกน้อยใจที่รัฐบาลไม่เห็นความสำคัญ อยากให้รัฐบาลหันมามองสัตว์ที่อยู่ในประเทศของเรา และให้ความสำคัญเหมือนกับสัตว์อื่นๆ ที่นำมาอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม เข้าใจดีว่าการนำสัตว์ต่างถิ่นมาอยู่ก็จะมีรายได้ แต่ควรจะมีการบริหารที่ชัดเจนกับสัตว์อื่นๆ ด้วย”
อย่างไรก็ดี โสภณ ดำนุ้ย ประธานสวนสัตว์อาเซียน และอดีตผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็ออกมาทัดทานเสียงสังคมว่า รายจ่ายที่เสียไปนั้นถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่เข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมากกว่าปีละ 3,000 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทิ้งช้างไทย เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็อนุมัติงบกว่า 500 ล้านบาท เพื่อดูแลช้าง โดยเกลี่ยงบประมาณให้ทั้งส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การสวนสัตว์ฯ รวมถึงสถาบันคชบาลแห่งชาติ ตลอดจนให้งบดูแลช้างเร่ร่อนด้วย
อย่างไรก็ตาม บทสรุป ณ เวลานี้ รัฐบาลยืนกรานว่า เมืองไทยจะไม่ไร้ซึ่งแพนด้า ต่อให้ต้องแลกด้วยเงินงบประมาณจำนวนมหาศาลขนาดไหน แต่ก็จะยอมจ่ายเพื่อคืนความสุขให้แก่ประชาชน!!
+++ ข้อตกลงให้ “หลินปิง” อยู่ประเทศไทยต่อไปได้อีก 15 ปี มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้ +++
1. หลินปิงต้องเดินทางกลับจีนในเดือนตุลาคม เพื่อปรับตัวเตรียมเข้าระยะเจริญพันธุ์ในช่วงเดือนก.พ.-พ.ค. ปี 2557 ซึ่งเมื่อได้คู่แล้ว จะส่งกลับไทยพร้อมหมีแพนด้าที่เป็นคู่ ซึ่งทางจีนเผยว่าจะใช้เวลาไม่เกินหนึ่งปี
2. เมื่อหลินปิงกลับมาไทยจะต้องมีการทำข้อตกลงใหม่ ให้อยู่ไทยต่อ 15 ปี ส่วนช่วงช่วงกับหลินฮุ่ย ให้ยึดตามกรอบเวลาเดิมคือ 10 ปี
3. รัฐบาลจีนคิดเงินสนับสนุน ในขณะที่หลินปิงพร้อมคู่อยู่ไทยต่อ อีก 15 ปี คิดเป็นเงิน ปีละหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 29 ล้านบาท
4. แพนด้า ช่วงช่วง หลินฮุ่ย แต่เดิมมีกำหนดกลับจีนในเดือน ต.ค.นี้ แต่เนื่องจากหลินปิงกลับพร้อมกันด้วย ซึ่งไทยได้ขอให้ช่วงช่วงกับหลินฮุ่ย อยู่ต่อก่อน 1 ปี จนกว่าหลินปิงจะได้คู่และกลับไทย คิดค่าสนับสนุนปีละ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือประมาณ 15 ล้านบาท
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
ขอบคุณภาพประกอบจาก Facebook Fan Page เฮ้ย! นี่มันตัดต่อชัด ชัด และ Jod 8riew