กาญจนบุรี - ไฟไหม้บ้านชายชราวัย 66 ปี กลางเมืองกาญจนบุรี โชคดีเจ้าหน้าที่สกัดทันคาดไฟฟ้ารัดวงจร ด้านนายกเล็กเมืองกาญจน์เตือนก่อนออกจากบ้านให้สำรวจเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้ง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (25 พ.ค.) ร.ต.ท.นเรศ สุดสาคร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านของนายสมพล กาญจนปฐมพร อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/50 ซ.ไปรษณีย์ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี กลุ่มควันกำลังพวยพุ่งออกมาจากบริเวณห้องพระชั้นที่ 2 ของบ้าน หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับทราบ จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.บำรุง วสุนธรานิติกุล พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เมืองกาญจนบุรี นางเบญจวรรณ เปรมประยูร นากเทศบาลเมืองกาญจนบุรี และมูลนิธิพิทักษ์ พร้อมประสานไปยังรถดับเพลิงเทศบาลเมืองกาญจนบุรี นำรถดับเพลิงมาช่วยกันสกัด
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น มีบ้านเรือนประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก รถดับเพลิงเข้าไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากซอยเข้าบ้านหลังดังกล่าวแคบ รถไม่สามารถวิ่งสวนกันไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องนำรถดับเพลิงเข้าไปทีละคัน รวมทั้งกันรถยนต์ที่สัญจรไปมาไม่ให้วิ่งผ่านเข้าไป พบต้นเพลิงอยู่ที่ห้องพระชั้นที่ 2 มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้บันไดไม้ปีนขึ้นไปบริเวณประตูระเบียงจากนั้นใช้ค้อนทุบกุญแจที่ปิดล็อกออกเพื่อใช้น้ำฉีดสกัด โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก็สามารถสกัดเปลวเพลิงเอาไว้ได้ แต่เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และยังมีกลุ่มควันพุ่งออกมาจากฝ้าหลังคาจึงต้องใช้น้ำฉีดสกัดเพื่อหล่อเลี้ยงเอาไว้จนแน่ใจว่าเพลิงจะไม่ลุกไหม้ขึ้นมาอีก
นายสมพล กาญจนปฐมพร เจ้าของบ้านเล่าว่า ขณะที่ตนกับภรรยานั่งเล่นที่ชั้นล่างของบ้าน อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายกับเสียงกระจกแตกโดยเสียงดังมาจากชั้นที่ 2 ตนจึงรีบขึ้นไปดู และก็เห็นกลุ่มควันไฟพุ่งออกมาจากภายในห้องพระ จึงแน่ใจว่าเกิดไฟไหม้ ดังนั้น จึงรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงมาช่วยดับไฟ และโชคดีที่เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟไว้ได้ทัน อีกทั้งทรัพย์สินก็ไม่มีอะไรเสียหายมากมาย
ด้าน ร.ต.ท.นเรศ สุดสาคร พนักงานสอบสวน กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าต้นเพลิงมาจากสายไฟที่มีสภาพเก่าที่อยู่ใกล้กับฝ้าเพดานบ้านภายในห้องพระชั้น 2 เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตาม จะทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนนางเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศบาลเมืองกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุโชคดีที่เป็นเวลากลางวัน ถึงแม่ซอยจะแคบแต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถเคลียร์เส้นทางเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุได้ทันเวลา และสามารถดับไฟได้ทันก่อนที่จะลุกลามไปยังบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปยังประชาชนว่า ก่อนจะเดินทางไปทำงาน หรือหากไม่มีใครอยู่บ้านก็ช่วยกันถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกเสียก่อน รวมทั้งหากจุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระก็ควรดับให้สนิท และหากเป็นไปได้ก็อยากให้สำรวจสายไฟฟ้าที่มีอยู่ในบ้านว่ามีสภาพเก่าหรือไม่ หากสายไฟใช้งานมานานหลายปีก็ควรที่จะเปลี่ยนสายไฟเสียใหม่เพื่อความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกทางหนึ่งด้วย
