ปทส.บุกจับ รง.แปรรูปไม้เถื่อนในทองผาภูมิ

กาญจนบุรี - ตำรวจ ปทส.นำกำลังเข้าตรวจสอบโรงงานแปรรูปไม้ในอำเภอทองผาภูมิ พบไม้เถื่อน เป็นสักท่อน ไม้แดงท่อน และไม้แปรรูปเพียบ สั่งเจ้าหน้าที่จับกุมดำเนินคดีทันที

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (24 พ.ค.) พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิหพราหมณกุล รอง ผบช.ก.ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า ภายในโรงงานแปรรูปไม้แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่พื้นที่ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีไม้เถื่อนอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก หลังจากได้รับการร้องเรียน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่หาข้อมูลในเชิงลับ จนเป็นที่แน่ชัดว่าเป็นจริงตามที่พลเมืองดีร้องเรียนเข้ามา

ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิบูลย์ เวียงจันทร์ รองผู้กำกับการกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รอง ผกก.กก.5 บก.ปทส.) พ.ต.ท.วรรษธร วาเกียรธนะ สารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สว.กก.5 บก.ปทส.) พ.ต.ท.ศุภเสริฐ ภู่ประเสริฐ สารวัตรกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สว.กก.5 บก.ปทส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.ปทส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.12 (สะพานลาว) รวมกว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นโรงงานแปรรูปไม้ดังกล่าว

พ.ต.ท.พิบูลย์ เวียงจันทร์ รอง ผกก.กก.5 บก.ปทส. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภายในเจ้าหน้าที่พบ นางประเทือง นาคบุญ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 205/1 หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และเป็นเจ้าของที่ดินที่ใช้จัดตั้งโรงงานดังกล่าว โดยมีนายพรชัย นาคบุญ ลูกชายเป็นเจ้าของโรงงาน ขณะเข้าตรวจสอบนายบุญชัย ไม่อยู่ ซึ่งนางประเทือง ได้นำใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้แรงงาน เล่มที่ 0028 เลขที่ 46 ลงวันที่ 8 ม.ค.2556 มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จากการตรวจสอบทั้งภายนอก และภายในโรงงานพบไม้สักท่อน จำนวน 69 ท่อน ปริมาตร 6.711 ลบ.ม. ไม้แดงท่อน จำนวน 5 ท่อน ปริมาตร 0.737 ลบ.ม. ไม้สักแปรรูป จำนวน 240 แผ่น ปริมาตร 1.677 ลบ.ม. ไม้ตระคร้อแปรรูป จำนวน 277 แผ่น ปริมาตร 1.691 ลบ.ม. และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ อีก 31 ชิ้น

จากการสอบปากคำ นางประเทือง เกี่ยวกับใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักรใบอนุญาตค้า หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้าซึ่งสิ่งประดิษฐ์เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) และเอกสารเกี่ยวกับการได้มา หรือการครอบครองไม้สักที่มีอยู่ภายในบริเวณโรงงาน ซึ่งนางประเทือง บอกว่าไม่มีใบอนุญาต อีกทั้งไม่มีเอกสารเกี่ยวกับการได้มาของไม้สักที่มีอยู่ภายในบริเวณโรงงาน

ดังนั้น คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันพิจารณาการประกอบกิจการของโรงงานดังกล่าว ซึ่งพบว่าลักษณะของไม้ที่ตรวจพบในบริเวณโรงงานมีลักษณะใหม่สด ไม่เคยผ่านการเป็นสิ่งปลูกสร้าง หรือเครื่องใช้อื่นๆ มาก่อน และไม้ทั้งหมดไม่มีรูปรอยดวงตราของเจ้าหน้าที่ตีประทับที่หน้าตัดของไม้ ซึ่งจากพฤติการณ์ดังกล่าว คณะเจ้าหน้าที่ได้พิจารณาแล้วเห็นพร้อมกันว่า การประกอบกิจการโรงงานแปรรูปไม้ โดยใช้แรงงานคนของนายพรชัย นาคบุญ ลูกชายของนางประเทือง เป็นการกระทำผิดจริง

เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นายพรชัย ในข้อหา ตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่อง หรือตั้งโรงค้าไม้แปรรูปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 58 และ 73 ในส่วนไม้ของกลางทั้งหมด รวมทั้งเครื่องจักรที่มีอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการขนย้ายไปเก็บรักษาที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.12 (สะพานลาว) ในส่วนค่าภาคหลวง และการกระทำที่ทำให้รัฐเสียหายนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ